รัฐสภา 29 มิ.ย. -วุฒิสภาพิจารณารายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ รัฐบาล ชี้แจงความคืบหน้าและการปรับแผนปฏิรูปประเทศที่อยู่ระหว่างดำเนินการภายใต้การคำนึงถึงสถานการณ์ของประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปและรวมถึงผลกระทบจากโรคโควิด -19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณา เรื่องด่วนรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2562) ซึ่ง นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงความคืบหน้าแผนปฏิรูปประเทศในรอบ 3 เดือนว่า แผนปฏิรูปประเทศขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงแผน การปรับกิจกรรมและข้อเสนอการจัดตั้งหน่วยงานบางส่วนให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศที่เห็นผลเป็นรูปธรรม แบ่งเป็น ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ที่สร้างสอบวัดความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่รัฐให้เป็นมาตรฐานการเดียวกันด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบภายในปี 2567
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ ระบบการปล่อยตัวชั่วคราว ที่ประธานศาลฎีกาลงนามระเบียบเปิดทำการศาลชั่วคราวและพิจารณาคำร้องปล่อยตัวชั่วคราวในวันหยุด เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงสิทธิการเข้าถึงกระบวนการปล่อยตัวชั่วคราว ลดการเรียกหลักประกัน โดยคำนึงถึงเหยื่ออาชญากรรมและความสงบสุขของสังคมควบคู่ไปด้วย และด้านสาธารณสุข ได้พัฒนารูปแบบปฏิรูปปฐมภูมิ สำนักงานสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ โดยดำเนินการรูปแบบคลินิกหมอครอบครัว และจัดทำกฎหมายรองเพื่อขยายระบบแพทย์ปฐมภูมิให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ต่อไป
นายเทวัญ กล่าวว่า ส่วนการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศที่ล่าช้าพบว่าปัญหาเกิดจากการจัดทำกฎหมายบางส่วน จึงปรับปรุงแผนปฏิรูปโดยให้กำหนดเรื่องแผนปฏิรูปที่ส่งผลต่อสังคมในวงกว้างให้ชัดเจน ดังนั้นคณะรัฐมนตรีจึงเห็นชอบปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ โดยให้กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดในระดับแผนไว้ชัดเจนวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม คัดเลือกเฉพาะกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลต่อประชาชนอย่างมีนัยยะสำคัญ คัดเลือกจัดลำดับกฎหมายภายใต้แผน ทบทวนจัดตั้งหน่วยงานของรัฐตามแผน การพิจารณาหน่วยงานรับผิดชอบ และการปรับแผนปฏิรูปแต่ละด้านให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน และขยายแผนการปฏิรูปประเทศดำเนินการภายใน 90 วัน ซึ่งการดำเนินการในระยะต่อไปนั้น รัฐบาลได้เน้นย้ำว่า การปรับแผนปฏิรูปประเทศจะต้องคำนึงถึงสถานการณ์ของประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปและบริบทต่าง ๆ ในสังคม รวมถึงผลกระทบจากโรคโควิด -19 ด้วย
พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และพิจารณารายงานสรุปผลการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ประจำปี 2562 ได้นำเสนอรายงานของคณะกรรมาธิการฯ ในแต่ละด้านที่ได้ทำการศึกษาต่อที่ประชุม ก่อนเปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายแสดงความเห็นอย่างกว้างขวางต่อไป.-สำนักข่าวไทย