วุฒิสภาวุ่น​ โหวตเคาะ 14 กมธ.ร่วมกันฝ่ายวุฒิฯ ถกร่าง กม.ประชามติ

รัฐสภา​ 21 ต.ค.-วุฒิสภาวุ่น​ โหวตเคาะ 14 กมธ.ร่วมกันฝ่ายวุฒิฯ ถกร่าง กม.ประชามติ ตีตกเสียงข้างน้อย​ “นันทนา” ปะทะ “พิสิษฐ์” ซัดไม่ให้มีสัดส่วน มีแต่พวกเรา เป็นระบอบเผด็จการไม่ใช่ประชาธิปไตย ด้าน “พิสิษฐ์” แจงไม่ใช่เผด็จการ แต่มองคนเป็น กมธ.ร่วมต้องเห็นต่างจาก สส.​

การประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม มีวาระแจ้งเรื่องตั้งคณะกรรมาธิการ ร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ภายหลังนายสุทนต์ กล้าการขาย สว. แจ้งรายชื่อ กมธ.ร่วมกันทั้ง 14 คนตามที่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เสนอมา ประกอบด้วย 1.พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย​ 2.นายธวัช สุระบาล 3. พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ​ 4.นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร 5.นายนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล​ 6.นายอภิชาติ งามกมล 7.นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล​ 8.พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ แสงเพชร 9.นายกมล รอดคล้าย​ 10.นายชีวะภาพ ชีวะธรรม 11.นายเอนก วีระพจนานันท์ ​12.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 13.นายพิชาญ พรศิริประทาน​ และ 14.นายสิทธิกร ธงยศ ปรากฏว่าเกิดตามประท้วงวุ่นในห้องประชุม


นายนรเศรษฐ ปรัชญากร สว. ลุกประท้วง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเสียงข้างน้อยที่โหวตไม่เห็นรับรองเสียงข้างมาก 2 ชั้น จึงอยากเสนอชื่อสมาชิก 2 คนเพื่อเข้าร่วม กมธ.ตามสัดส่วน ซึ่งเป็นสมาชิกเสียงข้างน้อยเพื่อให้ประชาธิปไตยเดินไปอย่างสมบูรณ์ โดยเป็นการเคารพเสียงส่วนใหญ่และไม่ละเลยเสียงส่วนน้อย จึงขอเสนอชื่อน.ส.นันทนา นันทวโรภาส และนายประภาส ปิ่นตกแต่ง เพื่อเข้าร่วมกมธ. เนื่องจากทั้ง 2 คนเป็น กมธ.ประชามติ ฝั่งวุฒิสภา อยู่แล้ว

ด้านนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดใจกับคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถของแคนดิเดตทั้ง 14 คนที่ถูกเสนอมาตั้งแต่ต้น แต่เมื่อมาดูรายชื่อของ กมธ.ทั้ง 14 คนพบว่าเห็นชอบกับการแก้กลับไปเป็นเสียงข้างมาก 2 ชั้น แต่เมื่อคิดตามจำนวน 200 คนจะตกอยู่ที่ 14.28 คน เท่ากับ 19 คนที่เป็นเสียงส่วนน้อยนั้นต้องมี 1 คนที่เป็นโควตาที่จะอยู่ในกมธ.ร่วมกัน ซึ่งในสถานการณ์ตอนนี้ในฝั่งของ สส.มี 3 คนที่มาจากพรรคที่งดออกเสียง กับอีก 14 คนที่ทางวิปวุฒิสภาเสนอมาแต่แรก ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะสนับสนุนเสียงข้างมาก 2 ชั้น อาจทำให้มีปัญหาว่าไม่สะท้อนถึงข้อเท็จจริงที่ไม่มีเสียงข้างน้อย และเราต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเราเคารพเสียงทุกเสียง นอกจากนี้ ใน 14 คนที่เป็นกมธ.ร่วมกันของวุฒิสภากลับไม่มีตัวแทนจากกมธ.พัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา เลย จึงขอให้พิจารณาถึงสัดส่วนตรงนี้ ขอให้อย่างน้อยใน 14 คนมีเสียงข้างน้อย 1-2 คนเข้าไปด้วย


ขณะที่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า รายชื่อ 14 คนนั้นมาจากที่ประชุมวิปวุฒิสภาที่ได้กำหนดมา ซึ่งถือเป็นเสียงข้างมาก ไม่มีเสียงข้างน้อยที่ได้แสดงความคิดเห็นไว้ หมายความว่ากมธ.ร่วมกันฝั่งวุฒิสภาไม่เห็นความสำคัญของสัดส่วนวุฒิสภา และไม่เห็นความสำคัญของเสียงข้างน้อยเลย และเชื่อว่าประชาชนที่นั่งฟังการอภิปรายอยู่นั้นกำลังตั้งข้อสงสัยว่าวุฒิสภาแห่งนี้เป็นวุฒิสภาของใคร ไม่ใช่วุฒิสภาของประชาชนหรือ ทุกครั้งที่ลงมติเสียงข้างมากจะชนะทั้งหมด ในหลักประชาธิปไตยเราทำตามเสียงข้างมากแต่ก็เคารพเสียงข้างน้อย ฉะนั้น ในการตั้งกมธ.รวมครั้งนี้ควรเป็นสัดส่วนของเสียงมากและเสียงข้างน้อย สุดท้ายเมื่อตั้งกมธ.ในสัดส่วน 14 ต่อ 14 แล้วลงมติออกมาเป็นเช่นไรก็อธิบายต่อประชาชนได้ว่านี่เป็นสัดส่วนที่มีทั้งเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย ไม่ใช่สัดส่วนที่มาจากเสียงข้างมากเพียงอย่างเดียว

”ที่ท่านพูดว่าประชามติต้องทำให้รัดกุม ท่านพูดจริงๆ หรือแค่ต้องการเอาชนะ แล้วยืดเวลาออกไป หากท่านเห็นความสำคัญของประชาธิปไตยจริง ท่านต้องให้ทุกฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็น และสะท้อนออกมาผ่านกมธ.สุดนี้ที่ควรมีทั้งเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย เพื่อเข้าไปอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่าเราควรทำประชามติชั้นเดียว แต่หากเสียงข้างมากบอกว่าต้องการทำประชามติสองชั้น ก็ให้อภิปรายเหตุผลมา ประชาชนรอฟังอยู่ ดิฉันไม่อยากให้วุฒิสภาถูกนินทาว่ารวบรัดตัดตอน เป็นสภาที่มีใบสั่ง จึงขอวิงวอนให้สมาชิกทุกคนเห็นแก่ภาพลักษณ์ของวุฒิสภาชุดใหม่ที่ท่านเป็นสมาชิกอยู่ว่าสภาแห่งนี้เป็นสภาของประชาธิปไตย จึงควรให้มีกมธ.เสียงข้างน้อยที่จะเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ขอให้ท่านลงมติด้วยความเป็นตัวของตัวเอง และเคารพเสียงของประชาชน ทำให้ภาพลักษณ์ของสภาบิดเบี้ยว ไม่ทำให้ประชาชนไม่ขาดศรัทธากับวุฒิสภา“ น.ส.นันทนา กล่าว

ด้านนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. กล่าวว่า อยากให้ทำความเข้าใจตรงนี้ว่า การที่วุฒิสภาต้องเสนอชื่อบุคคลเป็นกมธ.ร่วมกันโดยผ่านวิปวุฒิสภานั้น ต้องคำนวณถึงสัดส่วนของผู้แทนของเจ้าของเรื่อง กมธ.เสียงข้างมาก กมธ.เสียงน้างน้อยที่สงวนความเห็นและสมาชิกที่แปรญัตติซึ่งเป็นผลการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ของ สส.เท่านั้น ไม่ได้รวมผู้เห็นชอบกับ สส. ฉะนั้น คนที่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปเป็นกมธ.นั้น ต้องเป็นผู้ที่เห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมเท่านั้น


ทำให้น.ส.นันทนา ลุกขึ้นโต้ว่า การที่จะตั้งกมธ.โดยไม่มีสัดส่วนนั้น ตนคิดว่านายพิสิษฐ์เข้าใจผิด ในกลไกระบอบประชาธิปไตยเรามีทั้งเสียงข้างมากและเสียงข้างน้อย แต่เราจะทำตามมติเสียงข้างมากโดยยังเคารพเสียงข้างน้อย เมื่อไหร่ที่บอกว่าไม่ต้องมีสัดส่วนมีแต่พวกของเราเท่านั้น นั่นคือระบอบเผด็จการไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ขอให้เข้าใจใหม่ และท่านเป็นสว.ที่อยู่ในกลไกระบอบประชาธิปไตย แต่ท่านปฏิเสธในการให้มีสัดส่วนของคนคิดต่างเข้ามา แปลว่าท่านกำลังยืดหลักเผด็จการไม่ใช่ประชาธิปไตย น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง

นายพิสิษฐ์ ใช้สิทธิ์พาดพิงว่า ตนไม่ได้มีความคิดเป็นเผด็จการ และเชื่อว่าสภาแห่งนี้ไม่ได้มีพรรค มีพวก ในสภาแห่งนี้ตนเคารพสิทธิ์ของทุกคน ที่ตนพูดเมื่อสักครู่นั้นเป็นความจริง และการจะเป็นกมธ.นั้นตนมองว่าต้องเป็นคนที่เห็นต่างจาก สส.

ขณะที่สว.ฝ่ายข้างมาก เช่น นายพิสิษฐ์, พล.ต.ท.บุญจันทร์ ยืนยันให้ใช้รายชื่อ 14 คน ตามที่ผ่านความเห็นชอบของวิปวุฒิสภา และเห็นว่าในกมธ.ร่วมกันก็มีฝ่ายไม่เห็นชอบอยู่แล้ว

นายเทวฤทธิ์ เสนอญัตติของดใช้ข้อบังคับชั่วคราว เพื่อขอให้ออกเสียงแบบ 1 คน ต่อ1ตัวเลือก เพื่อให้กมธ.เหล่านั้น เป็นตัวแทนของสว.อย่างแท้จริง จากนั้นประธานสั่งพักการประชุม เนื่องจากให้เจ้าหน้าที่ทำบัตรออกเสียง เพราะมีสว.ต้องการเป็นกมธ.ร่วมกัน 16 คน ซึ่งเกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ 14 คน อย่างไรก็ตาม ในญัตติที่นายเทวฤทธิ์เสนอไว้นั้น ที่ประชุมลงมติตีตก โดยไม่เห็นชอบด้วยเสียง 138 ต่อ 26 งดออกเสียง 5 เสียง

จากนั้นนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ประกาศผลการนับคะแนน ซึ่งเสียงส่วนใหญ่โหวตเทนชอบตามรายชื่อที่วิปวุฒิสภา มีมติ 14 คน ส่วนตัวแทน สว.เสียงข้างน้อย คือ น.ส.นันทนา ได้เพียง 27 คะแนน และนายประภาส ได้ 25 คะแนน เป็นอันว่ารายชื่อทั้ง 14 คนที่ได้รับเลือกเป็นไปตามที่วิปวุฒิสภาอนุมัติแล้ว.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร