มติ ป.ป.ช. ส่งเลขาฯ ขอข้อมูล ทบ. กรณี “หมู่อาร์ม” ขอคุ้มครอง

กทม. 9 มิ.ย.- มติ ป.ป.ช. ส่งเลขาฯ-รองเลขาฯ ขอข้อมูลกองทัพบก กรณี “หมู่อาร์ม” ขอคุ้มครอง


สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้ ( 9 มิ.ย.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษก เผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาเรื่องที่ ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ หมู่อาร์ม ทหารสังกัดศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ กรมสรรพาวุธ ทหารบก ยื่นทวงถามความคืบหน้า เนื่องจากมายื่นคุ้มครองพยานจาก ป.ป.ช. ว่า ที่ประชุม ที่มี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เป็นประธานในที่ประชุม มีมติให้เลขาธิการ ป.ป.ช. หรือรองเลขาธิการ ป.ป.ช.ที่กำกับดูแลเรื่องนี้ คือ นายประจวบ สวัสดิประสงค์ ไปประสานหารือกับทางกองทัพบกเพื่อหารือแนวทาง หรือมาตรการเยียวยา ส.อ.ณรงค์ชัย ว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง และให้ดูไปถึงกรณีที่เขาถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ถือเป็นการหาข้อมูลเบื้องต้นมาก่อน อีกทั้งให้ประสานว่าทาง ทบ. มีมาตรการที่จะคุ้มครองหรือไม่ มีมาตรการ ดำเนินการเอาผิดเอาอะไร และหาทางแก้ไขปัญหาเบื้องต้นก่อน


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ส.อ.ณรงค์ชัย ขอโอนย้ายหน่วยและขอความคุ้มครองพยาน โฆษก ป.ป.ช.กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องประสานงานกับทางต้นสังกัดของเขาก่อน เพื่อให้ได้รับทราบข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขของต้นสังกัดก่อน แต่ถ้าเห็นว่ามีความจำเป็น และอาจเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจริง ก็จะเสนอมาตรการต่อนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายมาตรา 133 ที่ระบุว่ากรณีที่ทางผู้ชี้ช่องเบาะแสซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐถูกกันแกล้ง หรืออาจจะได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ก็ให้เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อเรียนนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดให้มีมาตรการคุ้มครอง รวมถึงกรณีการเลื่อนย้ายสังกัดหรือย้ายหน่วย ซึ่งต้องคุ้มครองตำแหน่งและเงินเดือนของเขาให้ได้เท่าเดิม ไม่ให้ต่ำกว่าเดิม นี่คือ มาตรา 133 ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องมีข้อเท็จจริงให้เพียงพอและชัดเจนทั้งสองฝ่ายก่อน ว่ามีการกันแกล้งหรือไม่อย่างไร

“เรื่องนี้ถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วน ดังนั้นให้รีบดำเนินการประสานงาน ซึ่งประธานฯ วัชรพล บอกว่า ถ้าเป็นไปได้ให้รีบดำเนินการประสานงานกับทางกองทัพบกโดยเร็ว พรุ่งนี้ได้ยิ่งดี เพราะ ส.อ.ณรงค์ชัยต้องรีบได้รับความคุ้มครอง ป.ป.ช.เองไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่จะต้องเป็นไปตามขั้นตอน เพราะการจะชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีรายละเอียดพอสมควร ดังนั้นที่ประชุม จึงให้รีบไปพูดคุย ประสานงานกับทาง ทบ. โดยเร็ว แล้วให้รวบรวมรายละเอียดเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยเร็วอีกครั้ง” นายนิวัติไชย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”