ทบ. ยันไม่ปกป้อง ปมเจ้ากรมทำร้ายลูกน้อง

19 พ.ย. – โฆษก ทบ. ย้ำ กรณีเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่มีการละเว้นแน่นอน เพราะเป็นนโยบาย ผบ.ทบ. ย้ำทุกหน่วย ให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนและความสำคัญของกฎหมายซ้อมทรมาน แจง ผลสอบสวน ยังไม่เสร็จ เพราะต้องรอบคอบให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย


พันเอก ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี ผู้เสียหายเข้าร้องคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร กรณี พลโทณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ถูกร้องเรียนทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งกรณีดังกล่าว กองทัพบกได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากผู้บัญชาการทหารบก ย้ำเป็นนโยบายในเรื่องการทำร้ายร่างกายและเน้นย้ำให้กำลังพลคำนึงถึงกฎหมายซ้อมทรมานและการอุ้มหาย ดังนั้น เมื่อเกิดกรณีดังกล่าวจะไม่มีการละเว้นและจะดำเนินการตามข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ เมื่อถามว่ามีคำสั่งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตั้งขึ้นตั้งแต่ วันที่ 11 พ.ย. 67 แต่ขณะนี้วันที่ 19 พ.ย.67 ผ่านมาแล้ว 8 วัน ยังไม่มีข้อสรุป


พันเอก ฐิต์รัชช์ โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ขณะนี้การสอบสวนดำเนินการอยู่ในขั้นตอน แต่เนื่องจากผู้ถูกร้องเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้น ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบระมัดระวังแต่ขณะเดียวกันยืนยันให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายซึ่งเป็นทหารชั้นผู้น้อย และหากผลสอบสวนออกมาเป็นอย่างไรก็จะไม่มีการละเว้นหรือช่วยเหลือเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ซึ่งคณะกรรมการประกอบด้วย นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งผลสอบสวนยังอยู่ในกระบวนการ เนื่องจากผู้ถูกร้องเรียนเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้นการสอบสวนต้องรอบคอบและรอบด้าน ย้ำกองทัพบกจะให้ความเป็นธรรมกับเรื่องดังกล่าว ระหว่างผู้บังคับบัญชาชั้นสูงและทหารชั้นผู้น้อย

อย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลการสอบสวน เพราะผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการผ่านการประชุม และเน้นย้ำเรื่องสิทธิมนุษยชน พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) ป้องกันซ้อมทรมาน และอุ้มหาย ซึ่งมีการเน้นย้ำผู้บังคับหน่วยทุกหน่วย


เมื่อถามว่า จะต้องมีการย้ายนาย ออกมาจากหน่วยก่อนหรือไม่ พันเอก ฐิต์รัชช์ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ผู้ถูกร้องเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ดังนั้น กรรมการสอบสวน ไม่ใช่คนในกรมยุทธศึกษาฯ แต่เป็นกรรมการกลาง พร้อมย้ำให้รอผลการสอบสวน

พันเอก ฐิต์รัชช์ ยืนยันอีกครั้งว่า กองทัพบกจะดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกันทุกฝ่าย ทั้งนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และนายทหารชั้นผู้น้อย -313-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก