“ปารีณา” โต้ “บุ๋ม ปนัดดา” ทำประชาชนสับสนเพิ่มโทษคุกคามทางเพศ

รัฐสภา 4 มิ.ย. -“เอ๋ ปารีณา” โต้ “บุ๋ม ปนัดดา” ปมเรียกร้องเพิ่มโทษคุกคามทางเพศ ชี้มีกฎหมายอาญาคุ้มครองอยู่แล้ว ฉะเป็นดาราอย่าทำประชาชนสับสน


น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส. ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กรณีโพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว พาดพิงบุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นักแสดง เกี่ยวกับการเรียกร้องเพิ่มโทษคดีคุกคามทางเพศ ว่า เป็นเพราะบุ๋ม ปนัดดา โพสต์ข้อความในทำนองการข่มขืนหรือการคุกคามไม่สามารถดำเนินคดีได้ ทั้ง ๆ ที่มีกฎหมายยืนยันชัดเจนว่าสามารถทำได้ และที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ของตน ได้เคยแจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศมาแล้วหลายคดี โดยเฉพาะคดีข่มขืน ที่ปัจจุบันมีการเพิ่มโทษ ถึงขั้นประหารชีวิต และคดีคุกคามโทษสูงสุดคือติดคุก แต่เข้าใจว่ากรณีที่บุ๋ม ปนัดดา เรียกร้องเป็นเรื่องของการลงบันทึกประจำวัน ซึ่งก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการลงบันทึกประจำวันไม่ได้เป็นคดีอาญา หากจะดำเนินคดี ต้องแจ้งความไม่ใช่ลงบันทึกประจำวัน 

น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ไม่ได้อ่านแค่พาดหัวข่าวแล้วออกมาตำหนิ แต่อ่านทั้งหมดแล้ว และห่วงว่าประชาชนจะเข้าใจผิด เวลาเกิดเหตุจะไปลงบันทึกประจำวันอย่างเดียวโดยไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี ตนไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวอะไรกัน เพียงแต่อยากให้คนเป็นดาราระมัดระวังคำพูด เพราะเป็นบุคคลที่ประชาชนสนใจ และประชาชนเชื่อคำพูด จึงส่งผลกระทบต่อสังคม ส่วนที่สังคมออนไลน์ออกมาโจมตีกรณีนี้ เห็นว่าปกติก็โจมตีอยู่แล้ว


ต่อข้อถามว่าจะขอโทษบุ๋ม ปนัดดาหรือไม่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า อยากให้ประชาชนใช้วิจารณญาณกับความเห็นของบุ๋ม ปนัดดา ในการเสพข้อมูลต่าง ๆ เพราะมันไม่ใช่ข้อเท็จจริง และบุ๋ม ปนัดดา ไม่ใช่กรรมาธิการที่มีอำนาจพิจารณาเรื่องนี้ เป็นเพียงที่ปรึกษา และการพิจารณาเพิ่มโทษมีหน่วยงานพิจารณาอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ปารีณา ยังแสดงภาพข้อกฎหมายให้สื่อมวลชน ว่ามีมาตรา 392 ของกฎหมายอาญา ที่ระบุว่า ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับบังคับใช้อยู่แล้ว

สำหรับกรณีที่เป็นประเด็นดังกล่าว เกิดจากบุ๋ม ปนัดดา ออกมาเรียกร้อง เพิ่มโทษคดีคุกคามทางเพศ โดยมีประโยคหนึ่ง ระบุ ขอให้คณะกรรมาธิการเปลี่ยนแปลงกฎหมายข่มขืน ให้มีกฎหมาย และ โทษที่เป็นคดีอาญาอย่างจริงจัง จนมีสื่อบางสำนักไปพาดหัวว่า คุณบุ๋ม เร่งผลักดัน กฎหมายข่มขืน ให้เป็นคดีอาญา ทำให้ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์  โพสต์ตำหนิ  บุ๋ม ปนัดดา ว่า  “มั่ว เป็นดาราประชาชนอ่านแล้วจะเข้าใจผิดได้เพราะ ข่มขืน คุกคาม สามารถแจ้งความเพื่อดำเนินคดีอาญาได้อยู่แล้ว” 


พร้อมลงท้ายข้อความว่า  ถึงอย่างไรก็ต้องขอชื่นชมดารามากความสามารถ  พร้อมโพสต์ ภาพ คุณบุ๋ม ปนัดดา ที่ถ่ายแบบเซ็กซี่ประกอบด้วยทำให้ เมื่อคืนนี้ (3มิ.ย.)คุณบุ๋ม ปนัดดา โพสต์ เฟซบุ๊ก ถึงเรื่องนี้ ว่า  ก่อนจะมาแซะอย่าอ่านแต่พาดหัว  เพราะทุกคนทราบว่าคดีข่มขืนเป็นคดีอาญา แต่ที่พยายามผลักดันคือ คดีคุกคามก่อกวน เช่นไล่ตามผู้หญิงที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต  พร้อม #ถ้าไม่ฉลาดให้อยู่เงียบ ๆ  #เดี๋ยวทำบุญไปให้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง