รัฐสภา 22 ก.ค.-“ยุทธพงศ์” ตั้งเป้าตัดงบฯกลาโหมเพิ่ม เดินหน้าค้านซื้ออาวุธฟุ่มเฟื่อย ถามเหตุใดทร.ซื้อยูเอวีตรวจชายฝั่งทางอากาศ ทั้งที่หน้าทีมิติรบทางน้ำ ด้าน “ปารีณา” ตั้งคำถามกรมทางหลวงขอซื้อเหมือนทร. ทำไมไม่ค้าน เหน็บ”ยุทธพงศ์”ทำตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์กรมทางหลวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ และไอซีที ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม มีนายสรวุฒิ เนื่องจํานงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ และไอซีทีฯ เป็นประธานการประชุม มีตัวแทนของกระทรวงกลาโหม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เข้ามาร่วมชี้แจง
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์และไอซีที กล่าวว่า วันนี้พิจารณางบฯ ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ที่ตนตั้งเป้าตัดงบฯ เพิ่มเติม เพราะจากการประชุมกมธ.งบฯ ชุดใหญ่ มีเพียงกองทัพเรือหน่วยงานเดียวที่ยื่นขอถอนโครงการจัดซื้อเรือดำนำลำที่ 2 และลำที่ 3 ส่วนรายการอื่นยังอยู่ครบ จึงต้องพิจารณาและเสนอตัดงบฯ ในส่วนต่างๆ ที่ไม่จำเป็นเพิ่มเติมอีก เช่น โครงการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับ (ยูเอวี) เพื่อลาดตระเวนชายฝั่งทะเลของกองเรือ งบประมาณ 4,100 ล้านบาท และพบว่ากองทัพเรือยังซื้อโดรน อีก 570 ล้านบาทในปีเดียวกัน จึงตั้งข้อสังเกตว่ามิติการรบของกองทัพเรือเป็นทางน้ำ แต่เหตุใดจึงตั้งงบฯ ซื้อทางอากาศ รวมแล้วงบประมาณเกือบ 5,000 ล้านบาท ส่วนกองทัพบกก็มีการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ และอุปกรณ์รถถัง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียด และได้ขอไปทางกองทัพแล้วแต่ยังไม่ได้ข้อมูล รวมทั้งต้องตามเรื่องการจัดซื้อเรือลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบก หรือเรือแอลพีดี ซึ่งเป็นการจัดซื้อเรือแต่ไม่มีระบบอาวุธ จนต้องทำหนังสือไปถึงประเทศจีน เพื่อขอความอนุเคราะห์ติดอาวุธเพิ่ม ซึ่งกองทัพเรือยังไม่ได้ให้คำตอบเรื่องนี้ วันนี้จะขอดูความเหมาะสมว่าจำเป็นต้องมีการจัดซื้อหรือไม่ อีกทั้งต้องดูบริษัทที่จัดซื้อด้วยว่าเป็นอย่างไร และเป็นการจัดซื้อรูปแบบไหน
”ส่วนตัวจะค้านการจัดซื้ออาวุธที่ฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะเรือดำน้ำ เพราะมิติการรบปัจจุบันนั้นเปลี่ยนไปแล้ว และเป็นใช้เทคโนโลยีมากกว่า ยืนยันว่าจะเสนอตัดรายการซื้ออาวุธที่ไม่จำเป็นเพิ่มเติมอีก หากที่ประชุมไม่ยินยอมก็จะเสนอโหวตลงมติ และถ้าแพ้ก็จะไปสู้ในที่ประชุมกมธ.ชุดใหญ่ต่อ เราต้องไม่เกรงใจกัน”นายยุทธพงศ์ กล่าว
ด้านน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ได้มาติดตามการประชุมด้วย พร้อมกล่าวว่า ขอให้สื่อมวลชนติดตามพฤติกรรมของนายยุทธพงศ์ เพราะเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ทางกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้มาชี้แจงขอจัดซื้อยูเอวีราคาสูงเหมือนกับกองทัพเรือ ตนและกมธ.ของพรรคก้าวไกล มองว่าเป็นราคาสูงกว่าท้องตลาดมากถึง 2-3 เท่า โดยราคายูเอวี 1 ลำ มีราคาแสนกว่าบาท และขอให้ตัดงบฯ ในส่วนนี้ รวมถึงยังมีการของบฯ มหาศาล จึงถูกตัดลดแทบทุกรายการ เพราะราคาสูงหลายเท่า แต่นายยุทธพงศ์กลับมีพฤติการณ์ปกป้องว่ามีความจำเป็น ทำตัวเป็นเหมือนองครักษ์พิทักษ์กรมทางหลวง แต่พอถึงงบฯ ของกระทรวงกลาโหม ในส่วนของกองทัพเรือที่เป็นครุภัณฑ์ประเภทเดียวกันกลับคัดค้าน จึงฝากให้ช่วยติดตามว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายยุทธพงศ์ และตั้งข้อสังเกตว่านายยุทธพงศ์มีอะไรที่เป็นเบื้องลึกเบื้องหลังกับกรมทางหลวงหรือไม่
ส่วนโดรนของกองทัพเรือสมควรจะจัดซื้อหรือไม่ ตนขอไปดูรายละเอียด ทั้งนี้กมธ.ทุกคนควรทำงานอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่แค่จ้องตัดงบฯ กระทรวงกลาโหม จึงขอให้ดูที่การเสนอราคา น.ส.ปารีณา กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจกองทัพเรือที่ยอมถอยการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะวันนี้เรามีทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ใกล้กับมาเลเซีย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีเรือดำน้ำเฝ้าระวัง หากไม่มีความพร้อมอาจทำให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติได้ และหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็จะมาโทษทีหลังว่าทำไมไม่ซื้อ แต่ด้วยสถานการณ์โควิดตอนนี้ก็เข้าใจได้ แต่ไม่ใช่กองทัพเรือที่เสนอซื้อเรือดำน้ำ แต่ทุกหน่วยงานก็เสนอซื้อเครื่องมืออย่างอื่นด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย