ศบค.เผยช่วงเช้ามีคนเช็คอินไทยชนะ 4,635 คนต่อนาที

ทำเนียบ 17 พ.ค.-ศบค. เผย แพลตฟอร์ม ไทยชนะช่วงเช้ามีผู้ใช้บริการ
26,736 ร้านค้า
Check in  4,635 คนต่อนาที และขออย่าลืม Check out ยืนยันมีความปลอดภัยเพื่อป้องกันควบคุมโรค 


 

น.พ.พลวรรธ์ วิทูรกลชิต ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงร่วมกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื่อไวรัสโคโรนา
2019 (ศบค.)ถึง แพลตฟอร์ม
ไทยชนะ”  www.ไทยชนะ.com ว่า วันนี้(17
พ.ค.)เป็นวันแรกในการเปิดใช้ระบบ  โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่โดยตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลา
11.30 น. มีผู้ลงทะเบียนใช้งานในระบบ 26,736 ร้านค้า มีผู้ใช้งานแล้ว
โดยมีผู้สแกนคิวอาร์โค้ด
Check in  4,635 ต่อนาที และ Check out 155,486 คน 
ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบปัญหาข้อขัดข้องแต่อย่างใด


 

น.พ.พลวรรธ์ กล่าวว่าเมนูสำคัญในแพลตฟอร์มไทยชนะ
ได้แก่ การค้นหาร้านค้า โดยผู้ประกอบการจะต้องลงทะเบียนอย่างถูกต้อง การกรอกข้อมูลต่างๆ
ต้องถูกต้อง โดยเฉพาะการลงชื่อผู้ติดต่อ ที่ไม่ต้องระบุคำนำหน้า นาย นาง นางสาว
การใส่เลขบัตรประจำตัวประชาชนต้องใส่ 13 หลักให้ครบถ้วน
และรหัสหลังบัตรประชาชนสองหลักแรกเป็นตัวอักษรต้องถูกต้อง พร้อมใส่เบอร์โทรศัพท์และอีเมล์
และเมื่อลงทะเบียนเสร็จให้ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนอีกครั้งภายใน 24 ชั่วโมง หากเกิดข้อผิดพลาดก็ให้ลงทะเบียนใหม่
ไม่เช่นนั้นการสแกนคิวอาร์โค้ดจะไม่สามารถใช้ได้
และเมื่อประชาชนสแกนคิวอาร์โค้ดแล้ว จะเห็นความหนาแน่น
ของผู้ใช้บริการในแต่ละร้านค้าและเห็นความจุสูงสุดที่สามารถรองรับได้ ทั้งนี้
หากประชาชนไปหลายคน หรือไปเป็นครอบครัวและไม่สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดได้ครบทุกคนนั้น
ขึ้นอยู่กับร้านค้าที่จะต้องหาวิธีบันทึกว่าใครมาใช้บริการบ้าง และฝากเตือนประชาชนอย่าลืม
Check out เพราะขณะนี้ยังไม่มีบริการตัดระบบอัตโนมัติ
ไม่เช่นนั้นคนอื่นอาจจะไม่สามารถเข้าไปใช้บริการได้ เนื่องจากจะขึ้นว่ามีประชาชนยังคงใช้บริการอยู่  พร้อมกันนี้ย้ำว่า แพลตฟอร์มไทยชนะ
เป็นของทางราชการมีความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูลที่ใช้เพื่อดูแลควบคุมป้องกันโรค
โดยไม่มีจุดประสงค์นำไปใช้อย่างอื่น และเพื่อติดตามตัวหากเกิดความเสี่ยงขึ้น
จึงขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันลงทะเบียน และร้วมกัน
ใส่ใจ ปลอดภัย ไทยชนะ


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง