สธ.ชี้โควิดไทยยังมีหลายปัจจัยเสี่ยง

สธ.29 ก.ย.-ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป เผยสถานการณ์โควิดในไทยยังมีหลายปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในที่อาจมีผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการปะปนอยู่ในสังคม-พื้นที่แนวชายแดน สิ่งสำคัญเปรียบเสมือนวัคซีน คือการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และลงทะเบียน “ไทยชนะ”


กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 29 กันยายน 2563 ว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ (ซูดานใต้ 7 ราย, ตุรกี 1 ราย, เขตปกครองพิเศษฮ่องกง 3 ราย, อินเดีย 3 ราย) ทุกรายเข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้, สถานกักตัวที่รัฐกำหนด มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 1 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,370 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 94.69 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 130 ราย หรือร้อยละ 3.65 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,559 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้


เป็นผู้เดินทางมาจากซูดานใต้ 7 ราย ทุกรายเป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุระหว่าง 29 – 53 ปี อาชีพรับราชการทหาร (ปฏิบัติภารกิจทางทหาร) เดินทางถึงประเทศไทยโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ที่จังหวัดชลบุรี ตรวจพบเชื้อผลไม่ชัดเจนจากการตรวจครั้งแรกวันที่ 26 กันยายน 2563 (วันที่ 4 ของการกักตัว) ทุกรายไม่มีอาการ รอตรวจซ้ำ จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทหารที่กรุงเทพมหานคร โดยก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 16 ราย ทุกรายได้เข้าสู่ระบบกักกันและส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาล

ตุรกี 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 44 ปี สัญชาติไทย อาชีพว่างงาน เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 22 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ที่กรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 26 กันยายน 2563 (วันที่ 4 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร

เขตปกครองพิเศษฮ่องกง 3 ราย ทุกรายเป็นเพศหญิง สัญชาติไทย อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 23 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ที่กรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 26 กันยายน 2563 (วันที่ 3 ของการกักตัว) ผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร
รายแรก อายุ 28 ปี เริ่มป่วยวันที่ 19 กันยายน 2563 ด้วยอาการไข้ หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว มีน้ำมูก และอาเจียน ไม่ได้ไปพบแพทย์ ซื้อยาลดไข้มารับประทานเอง
รายที่ 2 อายุ 28 ปี เริ่มป่วยวันที่ 26 กันยายน 2563 ด้วยอาการเจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัว
รายที่ 3 อายุ 50 ปี ไม่มีอาการ


อินเดีย 3 ราย ทุกรายมีสัญชาติอินเดีย เป็นหญิง อายุ 31 ปี และทารก 9 เดือน เป็นมารดาและบุตร และชาย อายุ 34 ปี อาชีพผู้จัดการบริษัท มีใบอนุญาตทำงาน เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 23 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรกวันที่ 26 กันยายน 2563 (วันที่ 3 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร ก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 3 ราย ทุกรายได้เข้าสู่ระบบกักกันและส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาล โดยผู้เดินทางเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกักตัว ส่วนค่ารักษาพยาบาลเก็บจากประกันโควิด- 19

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ประเทศไทยขณะนี้ นับว่ายังคงมีความเสี่ยง ทั้งปัจจัยภายในประเทศที่อาจมีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการปะปนอยู่ในสังคม และสถานการณ์ในพื้นที่แนวชายแดนที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของประเทศเพื่อนบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจเกิดการลักลอบเข้าประเทศของแรงงานผิดกฎหมายที่ไม่ได้รับการคัดกรอง เฝ้าระวังโรคตามมาตรการ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจนำเชื้อเข้ามาแพร่ให้กับคนในประเทศไทยได้

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยลดความเสี่ยง เปรียบเสมือนวัคซีน ช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ คือการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น เลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดและเลี่ยงการนำมือสัมผัสบริเวณใบหน้า ตา จมูกปากและล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ หรือน้ำและสบู่ เมื่อเข้าใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆ ให้ลงทะเบียนเข้า-ออกผ่าน “ไทยชนะ” จะทำให้ลดความเสี่ยงที่จะติดชื้อโควิด-19 และป้องกันการแพร่ระบาดครั้งใหม่

นอกจากการขอความร่วมมือให้ทุกคนช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคแล้ว อีกสิ่งสำคัญคือขอให้ทุกคนช่วยกันสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นในชุมชนหากพบจำนวนแรงงานต่างด้าวไม่สบายมาซื้อยาแก้ไข้ หวัดรักษาตนเองในจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ขอให้สอบถามข้อมูลและแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่เพื่อตรวจสอบและเฝ้าระวังการแพร่เชื้อโควิด-19 ในชุมชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย