กทม 15 เม.ย.- ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือประชาชนผู้เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงให้ประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองผ่านระบบคัดกรอง BKK COVID 19 เพื่อบันทึกข้อมูลผู้ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ โดยรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนโรคของเจ้าหน้าที่
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยประชาชนที่เดินทางกลับจากจังหวัดต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 จึงขอความร่วมมือประชาชนผู้เดินทางไปจังหวัดพื้นที่เสี่ยงให้ประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองผ่านระบบคัดกรอง BKK COVID 19 ที่ เว็บไซต์ BKK COVID 19 http://bkkcovid19.bangkok.go.th/ ซึ่งเป็นระบบที่กรุงเทพมหานครจัดทำขึ้นเพื่อบันทึกข้อมูลผู้ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ โดยรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนโรคของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ประชาชนสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นและใช้เวลาในการกรอกข้อมูลไม่นาน โดยมีขั้นตอนง่ายๆ เพียง 2 ขั้นตอน ได้แก่ การสแกน QR CODE จากนั้นกรอกแบบฟอร์มข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์มือถือ ระบุเพศ และสัญชาติ จากนั้นกรอกข้อมูลการเดินทาง อาทิ เดินทางมาจากจังหวัดใด เดินทางเข้ากรุงเทพมหานครหรือผ่านไปจังหวัดอื่น ในกรณีเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ระบุการเดินทางเที่ยวเดียวหรือไปกลับ ระบุเขตและวันเดินทางกลับ พร้อมเหตุผลความจำเป็น จากนั้นแสดงข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่ด่านคัดกรอง เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ ซึ่งหากระบบแจ้งว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำขอแนะนำให้สังเกตตัวเองอย่างน้อย 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ หากระบบแจ้งว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง กทม.จะจัดเจ้าหน้าที่ติดต่อไปโดยเร็วที่สุดเพื่อสอบสวนอาการ รวมถึงส่งเจ้าหน้าที่ไป SWAB ตามจุดนัดหมายที่สะดวกทันที หากผลตรวจเป็นผู้ติดเชื้อจะทำการรักษาตามสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อเบอร์โทรศัพท์สายด่วนที่ใช้สำหรับอำนวยความสะดวกและให้คำปรึกษาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ สายด่วน สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร 0 2203 2393 หรือ 0 2203 2396 หรือ 0 2245 4964 และ 097 046 7549 (ตลอด 24 ชั่วโมง) สายด่วน Website BKK COVID-19 0 2203 2393 และ 0 2203 2396 ให้บริการเวลา 08.00 – 20.00 น. สายด่วนผู้ที่มีอาการป่วยเข้าเกณฑ์โรค COVID-19 ติดต่อศูนย์เอราวัณ กทม. 1646 แจ้งข้อมูลผู้ที่คาดว่าได้สัมผัสกับผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน (EOC) 094 386 0051 และสายด่วนกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 1422 รวมถึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัตินตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล D-M-H-T-T-A ประกอบด้วย D – Distancing เว้นระยะระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น M – Mask wearing สวมหน้ากากหน้ากากอนามัย ตลอดเวลา H – Hand washing ล้างมือบ่อยๆ T – Temperature Check ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย T – Testing ตรวจหาเชื้อโควิด- 19 และ A – Application ติดตั้งและใช้แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” และ “ไทยชนะ” อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด กรุงเทพมหานครยังได้พิจารณาสั่งการให้ข้าราชการและบุคลากรของกรุงเทพมหานครปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตามที่ทางราชการกำหนด (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด โดยเว้นระยะห่างระหว่างกัน สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาในทุกกิจกรรมอย่างเคร่งครัด ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และลงทะเบียนก่อนเข้า – ออกสถานที่ด้วยแอปพลิเคชันที่ทางราชการกำหนด เช่น ไทยชนะ หมอชนะ ให้บุคลากรงดเว้นการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง บุคลากรที่เคยไปพื้นที่เสี่ยงให้กักกันตนเองอย่างเคร่งครัดและหลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่สาธารณะ รวมถึงให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานครพิจารณาการเหลื่อมเวลาทำงาน จัดประชุม การเรียน การอบรม ในรูปแบบ Online เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค และให้มีการพิจารณาการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from Home) อย่างเต็มขีดความสามารถ จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 64 เป็นอย่างน้อยตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย