ภูมิภาค 12 พ.ค. – ฝนตกหนักในพื้นที่ ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ฟ้าผ่าวัวตาย 6 ตัว ส่วน จ.บุรีรัมย์ พายุพัดถล่ม ทำให้อาคารเรียน บ้านเรือนประชาชน และคอกสัตว์ พังเสียหายกว่า 40 หลัง ชาวบ้านเผยรุนแรงสุดในรอบ 50 ปี
เมื่อวานนี้ฝนตกหนักในพื้นที่ ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี และเกิดเหตุฟ้าผ่าลงมากลางทุ่งนา ทำให้วัวตายถึง 6 ตัว เป็นวัวขนาดใหญ่ เพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 3 ตัว และลูกวัวเพศเมีย 1 ตัว โดยมีนายสมาน ศรีจันทร์ อายุ 59 ปี เจ้าของวัว อยู่ในอาการตกใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่นำวัวมาเลี้ยงแล้วเกิดฟ้าผ่าทำให้วัวตาย จุดที่เกิดฟ้าผ่าอยู่ใกล้ต้นไม้ใหญ่สูงประมาณ 20 เมตร ซึ่งที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุผ่าฟ้าลงมาที่ต้นไม้หลายครั้ง
นายสมาน เจ้าของวัว บอกว่า นำวัวออกมาเลี้ยงที่ทุ่งนา 10 ตัว มีวัวของตัวเอง 3 ตัว อีก 7 ตัวที่เหลือเป็นของญาติ ปล่อยให้กินหญ้าอยู่กลางทุ่งนาใกล้ต้นไม้ใหญ่ กระทั่งเวลา 13.30 น. เห็นกลุ่มก้อนเมฆตั้งเค้าเหมือนฝนจะตก จึงออกมาต้อนวัวเพื่อให้วัวมารวมกัน รีบวิ่งเข้าไปหลบฝนที่กระท่อมนาที่อยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ประมาณ 100 เมตร จากนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก มีฟ้าผ่าลงมาเป็นระยะๆ เสียงดังสนั่น เมื่อออกมาดูวัวพบว่าเกิดฟ้าผ่าต้นไม้ที่วัวไปหลบฝนอยู่ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 270,000 บาท
เกิดเหตุพายุฝนและลมพัดกระหน่ำอย่างหนักในเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ทำให้หลังคาอาคารเรียนโรงเรียนบ้านถาวร ต.สวายจีก อ.เมืองบุรีรัมย์ พังเสียหาย 2 หลัง อาคารอนุบาล 1 หลัง อาคารอเนกประสงค์ 1 หลัง อาคารวิชาการ 1 หลัง ห้องน้ำ และเสาธงหัก 1 ต้น นอกจากนั้นพัสดุครุภัณฑ์ อุปกรณ์การเรียนการสอนที่เตรียมไว้ใช้ในช่วงเปิดเทอม ถูกแรงลมพัดและฝนตกตกใส่เปียกเสียหายอีกด้วย
นอกจากนั้นพายุยังได้พัดบ้านเรือน ยุ้งข้าว และคอกสัตว์ในหมู่บ้านถาวร ได้รับความเสียหายอีกกว่า 40 หลัง ซึ่งชาวบ้านบอกว่าครั้งนี้ถือว่าพายุรุนแรงสุดในรอบ 50 ปี
ที่ชลบุรี เกิดเหตุฝนตก ลมกระโชกแรง ในหลายพื้นที่ของเมืองพัทยา อ.บางละมุง ส่งผลให้ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นพาดสายไฟฟ้าแรงสูง จนเสาไฟหักโคนลงมาจำนวน 3 ต้น เสาไฟฟ้ายังฟาดทับบ้านเรือนประชาชนริมทางได้รับความเสียหาย และเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างนานกว่า 5 ชั่วโมง
นายวิเชียร เฮงอุดมทรัพย์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมืองพัทยาชั้นที่ 1 กล่าวว่า ทางการไฟฟ้าเร่งระดมกำลัง ทั้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเมืองพัทยา และผู้รับเหมากว่า 70 คน นำเครื่องจักรกลมาช่วยกันเปลี่ยนเสาไฟต้นใหม่อย่างเร่งด่วน เพื่อให้ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้
นอกจากนี้ทางการไฟฟ้ายังได้ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมทาง หากพบว่ามีต้นไม้ขนาดใหญ่ หรือต้นไม้ที่ปลูกไว้ในบริเวณริมรั้ว มีขนาดต้นสูงใหญ่ ขอให้แจ้งมายังการไฟฟ้า เพื่อจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตัดออก ไม่ให้เกิดเหตุต้นไม่ล้มทับเสาไฟฟ้าอีก
ที่กาญจนบุรี เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง มีลมกระโชกแรง ในหลายพื้นที่ของ อ.ท่าม่วง และมีลูกเห็บตก ต้นไม้หักโค่น ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหาย
นายฑรัท เหลืองสะอาด นายอำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและสำรวจความเสียหาย พบว่าบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต..บ้านใหม่ ได้รับความเสียหายหนักมากที่สุด ประมาณ 50-60 หลังคาเรือน ส่วนในพื้นที่ ต.วังขนาย ต.ทุ่งทอง และ ต.ท่าม่วง ได้รับความเสียหายรวมนับ 10 หลัง นายอำเภอท่าม่วงได้ประสานกับรองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 เพื่อขอกำลังทหารมาช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะผู้ที่มีฐานะยากจน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่อไป
ที่สมุทรสงครามเกิดเหตุพายุลมแรงพัดถล่ม ทำให้เรือประมงล่มกว่า 10 ลำ บางส่วนจมน้ำ จึงประสานผู้นำท้องที่ท้องถิ่นใน ต.บางจะเกร็ง ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง ให้ตรวจเช็กลูกบ้าน เบื้องต้นยังไม่มีผู้สูญหาย
นายเซียน น้ำเงิน อายุ 75 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและลูกหลานรวม 4 คน ได้ขับเรือออกไปเก็บหอยแมลงภู่ที่เลี้ยงไว้ในทะเลตามปกติ เมื่อเก็บหอยแมลงภู่ได้ 100 กิโลกรัม ก็ขับเรือเข้าฝั่ง โดยมีเรือประมงพื้นบ้านขับตามกันมาหลายลำ กระทั่งใกล้ถึงฝั่งเกิดพายุลมแรงพัดมาต่อเนื่อง เรือประมงเกิดล่มกว่า 10 ลำ ทุกคนต่างว่ายน้ำเอาชีวิตรอดเข้าฝั่ง โชคดีที่ตนและลูกหลานรอดมาได้
หลังจากฝนตกลงมาอย่างหนัก ชาวบ้านในบางพื้นที่ใช้โอกาสนี้สร้างรายได้ด้วยการออกไปจับสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ตามท้องนา และจะออกมาจำนวนมากในช่วงหลังฝนตก โดยเฉพาะอึ่งอ่าง โดยในโซเชียลมีการแชร์คลิปกระบะคันหนึ่ง ทะเบียนจังหวัดขอนแก่น ซึ่งท้ายกระบะบรรทุกอึ่งอ่างจำนวนมากมาเต็มคัน ส่งเสียงร้องระงมไปทั่วบริเวณ พร้อมเสียงเชิญชวนให้คนที่ต้องการอึ่งอ่างไปบริโภคให้มาเลือกซื้อไปตามใจชอบ มีผู้คนที่สนใจมามุงรอบรถกระบะ เลือกอึ่งอ่างใส่ถุงซื้อกลับไปจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย