เคลียร์ปัญหาไม่ลงตัว สองกลุ่มโจ๋เปิดศึกดวลปืน ดับ 1 เจ็บ 1

7 พ.ย. – ศึกวัยรุ่นชลบุรี-บางปะกง นัดเคลียร์ปัญหาไม่ลงตัว เปิดฉากยิงใส่กัน เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน ตำรวจตามรวบทันควัน 6 คน มอบตัวอีก 3 คน


เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วง 4 ทุ่ม คืนที่ผ่านมา (6 พ.ย.) พ.ต.อ.พงศ์สัณห์ มีศรี ผู้กำกับการ สภ.บางปะกง นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุวัยรุ่นทะเลาะวิวาทและยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณลานจอดรถตรงข้ามตลาดลาว ริมถนนสุขุมวิทสายเก่า อ.บางปะกง

ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด .380 จำนวน 8 ปลอก และขนาด 9 มม. 4 ปลอก ห่างไปประมาณ 20 เมตร พบร่างนายภาณุทัต อายุ 26 ปี นอนเสียชีวิต โดยถูกยิงต้นแขนขวาทะลุสีข้าง 1 แผล และกลางหลัง 1 แผล ส่วนผู้บาดเจ็บชื่อนายพงศธร อายุ 26 ปี ถูกยิงต้นแขนซ้าย 2 แผล เพื่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกง


เพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า เรื่องเกิดจากกลุ่มวัยรุ่นชลบุรีนัดเคลียร์ปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นบางปะกง โดยกลุ่มวัยรุ่นชลบุรีขับรถเก๋ง 2 คัน มาจอดรออยู่ก่อนแล้ว แต่เกิดตกลงกันไม่ได้ จากนั้นเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายขึ้น นายภาณุทัต กับนายพงศธร เพิ่งขี่รถจักรยานยนต์ตามมา จอดรถจะลงมาช่วยรุ่นน้อง แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นชลบุรีเปิดฉากยิงใส่ไม่ยั้ง นายภาณทัตถูกยิง 1 นัด ก็รีบวิ่งหนี แต่เกิดเสียหลักล้ม ทำให้ถูกตามมายิงซ้ำ 1 นัด จนเสียชีวิต ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นชลบุรีจะขับรถหลบหนีไป

ชุดสืบสวน สภ.บางปะกง จึงเร่งติดตามไล่ล่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ก่อนที่ช่วงตี 2 จะจับกุมมือยิงได้คือ นายจักรพงศ์ และนายภัคพล อายุ 21 ปีเท่ากัน โดยจับกุมได้ที่บ้านของนายจักรพงศ์ ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี พร้อมวัยรุ่นชาย 2 คน และวัยรุ่นหญิงอีก 2 คน เจ้าหน้าที่ค้นตัวนายภัคพล พบอาวุธปืนขนาด .380 ที่ใช้ก่อเหตุ พร้อมกระสุน 7 นัด อยู่ที่เอว รวมถึงตรวจยึดรถเก๋งเชฟโรเล็ต ครูซ สีขาว ก่อนคุมตัวทั้ง 6 คน ไปสอบสวนที่ สภ.บางปะกง

นายจักรพงศ์ ให้การว่า ปืนอีกกระบอกที่ใช้ก่อเหตุ ขนาด 9 มม. โยนทิ้งขณะขับรถหลบหนี โดยจำไม่ได้ว่าทิ้งที่ไหน ส่วนสาเหตุคือ นายภัคพล พร้อมกลุ่มเพื่อนชาย-หญิง รวม 9 คน ขับรถกันไป 2 คัน เพื่อนัดเคลียร์ปัญหาของเพื่อนที่ชื่อนายเอ โดยนายเอทำงานในโรงงานกับนายพงศธร ผู้บาดเจ็บ และนายโบ้ ที่เป็นเพื่อนนายพงศธร มีปัญหาว่านายเอเงินหายประมาณ 1,000 กว่าบาท ก่อนจะโทษนายพงศธรว่าเป็นคนเอาไป ซึ่งนายพงศธรปฏิเสธว่าไม่ได้เอาเงินไปจริงๆ สุดท้ายท้าต่อยกัน แต่นายเอไม่ขอต่อยกับนายพงศธร แต่ขอต่อยกับนายโบ้แทน เพราะตัวสู้สีกัน โดยนัดกันที่ลานจอดรถตรงข้ามตลาดลาว เวลา 22.00 น. ของวันที่ 6 พ.ย. 67 แต่พวกตนไปถึงก่อน และโทรเรียกให้กลุ่มนายพงศธรและนายโบ้มาที่จุดนัดหมาย


จากนั้นให้นายเอต่อยกับนายโบ้ตามที่ตกลง แต่นายเอสู้ไม่ได้ก็แพ้ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจับมือปรับความเข้าใจกัน ระหว่างที่นายโบ้เดินกอดคอนายเอมาส่งที่รถ จู่ๆ นายพงศธรวิ่งมาด้านหลังแล้วต่อยนายเอ ก่อนจะเห็นว่านายภาณุทัต ผู้ตาย จะวิ่งเข้ามาอีก พวกตนที่อยู่ภายในรถก็เปิดฉากใช้ปืนที่พกมา 2 กระบอก ยิงใส่กลุ่มของนายพงศธรไม่ยั้ง ทำให้นายพงศธรถูกยิงแขนทั้ง 2 ข้าง ส่วนนายภาณุทัตหลังจากถูกยิงก็วิ่งไปล้มหลังศูนย์ต่อพาสปอร์ตแรงงานต่างด้าว ตนก็วิ่งตามไปยิงซ้ำที่หลังอีก 1 นัด ก่อนวิ่งกลับไปขึ้นรถแล้วขับหลบหนีไป

ตำรวจกดดันกลุ่มวัยรุ่นชายอีก 3 คน ที่ยังหลบหนีให้เข้ามอบตัว ซึ่งเดินทางมาพบตำรวจในช่วงเวลา 06.00 น. โดยผู้ก่อเหตุมารู้ทีหลังว่าผู้ตายนั้นจะเข้ามาห้ามนายพงศธรไม่ให้ก่อเรื่อง แต่ถูกเข้าผิดเลยถูกยิงไปด้วย เบื้องต้นตำรวแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพยายามฆ่าผู้อื่น และข้อหาพกพาอาวุธปืนโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น