ภูมิภาค 9 พ.ค. – ผอ.โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม จ.นครพนม ส่งตัวพริตตี้สาวป่วยโควิด-19 รายที่ 2 กลับบ้าน หลังเข้ารับการรักษาจนหายเป็นปกติ ส่วนตายายชาวขอนแก่นหายป่วยโควิด-19 ปลื้มใจแพทย์ พยาบาล รพ.ขอนแก่น มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ ก่อนส่งกลับบ้าน
ที่โรงพยาบาลขอนแก่น นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาล พร้อมทีมแพทย์ พยาบาล นำดอกไม้มารอให้กำลังใจผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 5 และรายที่ 6 คือหญิงอายุ 63 ปี และชายอายุ 65 ปี สองสามีภรรยาชาวบ้านบ้านกุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งวันนี้คณะแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน หลังจากรักษาจนหายเป็นปกติ ทำให้ผู้ป่วยรายที่ 5 ซึ่งเป็นคุณยายวัย 63 ปี กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร้องไห้ด้วยความดีใจตลอดเวลา จากนั้นทั้งหมดได้ไปส่งตายายขึ้นรถพยาบาล เพื่อส่งตัวกลับบ้านที่ อ.น้ำพอง
ด้าน นพ.ชาญชัย กล่าวว่า ดีใจที่ผู้ป่วยทั้ง 2 รายหายเป็นปกติและกลับบ้านได้แล้ว จริงๆ แล้วคุณยายหายนานแล้ว แต่เนื่องจากมีอาการปวดเข่าจึงพักรักษาตัวต่อ เพราะกลับไปต้องไปอยู่แยกตัวจากบุคคลอื่น ต้องใช้ชีวิตด้วยตนเอง จึงต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรงที่สุด โดยรักษานาน 26 วัน เนื่องจากตาและยายมีโรคประจำตัวและเป็นผู้สูงอายุ
ส่วนที่โรงพยาบาลศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม นายอำเภอศรีสงคราม
พร้อมผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม ยืนยันผลการตรวจรักษา นางสาวชลกร
ติภู อายุ 34 ปี พริตตี้สาว ชาวบ้านดอนถ่อน หมู่ 12 ต.บ้านเอื้อง
อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ที่เดินทางกลับมาจากทำงานที่ จ.ภูเก็ต
และป่วยติดเชื้อโควิด-19 หลังมีการตรวจยืนยันเมื่อวันที่ 10
เมษายนที่ผ่านมา และถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอศรีสงคราม
จนกระทั่งผลการตรวจรักษาไม่พบเชื้อ หายเป็นปกติ
ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม
พร้อมด้วยโรงพยาบาลนครพนม จึงได้ส่งตัวกลับไปฟักฟื้นที่บ้าน
พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการกักตัว เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าหายจากการติดเชื้อ
100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการส่งทีม อสม. เข้าไปตรวจสอบดูแล
ติดตามอาการวันต่อวัน ซึ่งทางทีมแพทย์ พยาบาล
มั่นใจไม่มีโอกาสกลับมาติดเชื้ออีก แต่ยังคงต้องเฝ้าติดตามดูอาการต่อเนื่อง
ในครั้งนี้มีแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่้เกี่ยวข้อง และญาติพี่น้อง
ร่วมแสดงความยินดีและต้อนรับกลับบ้านอย่างอุ่น ถือเป็นผู้ป่วยรายที่ 2 ของ
จ.นครพนม ที่รักษาหายแล้วทั้ง 2 ราย ส่งกลับไปฟักฟื้นที่บ้านทั้งหมด ทำให้
จ.นครพนม มียอดป่วยโควิด-19 เป็นศูนย์ และยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม
ด้านสาธารณสุขจังหวัดนครพนมยังได้ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่เฝ้าติดตาม
เพิ่มมาตรการเข้มในการตรวจสอบคัดกรองกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด
รวมถึงแรงงานที่รับกลับมาจากพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 231 ราย
ที่กลับไปเฝ้าระวังกักตัวที่บ้านในพื้นที่ 12 อำเภอ โดยส่ง อสม.
ลงพื้นที่คัดกรองวันต่อวัน เฝ้าระวังตรวจสอบอาการ ป้องกันการแพร่ระบาด
ซึ่งยังไม่พบผู้ป่วย
ที่ศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช สถานที่กักกันตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ วันนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มอบหนังสือรับรองให้แก่ผู้ผ่านการกักตัว 5 คน ซึ่งเป็นพนักงานขับรถแบ็กโฮ เดินทางจากเมืองทะวาย ประเทศเมียนมา กลับเข้าไทย และผ่านการกักตัวครบ 14 วัน ตามมาตรการ Local Quarantine แล้ว เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปแสดงว่าผ่านการกักตัวครบแล้วตามมาตรการคัดกรองโรคของกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ที่ปลอดเชื้อ และสร้างความมั่นใจต่อเพื่อนบ้าน ซึ่งทางจังหวัดขอให้ทั้ง 5 คน ปฏิบัติตัวเหมือนกับที่อยู่ในศูนย์กักกัน เพื่อความไม่ประมาท ไม่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ออกกำลังกายด้วยวิธีการเดินถือว่าเหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งผู้ผ่านการกักกัน เดินทางกลับจากทำงานเป็นพนักงานขับรถแบ็กโฮ ที่เมืองทะวาย ประเทศเมียนมา ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาใน จ.นครศรีธรรมราช .-สำนักข่าวไทย