กรุงเทพฯ 8 พ.ค. – รมว.เกษตรฯ กำชับทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกการขึ้นทะเบียนเกษตรกร เสริมอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้านช่วยขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร พร้อมเตรียมช่องทางอุทธรณ์เกษตรกรใหม่เพาะปลูกไม่ถึง 15 วัน ขึ้นทะเบียนไม่ทัน 15 พ.ค. นี้
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้เร่งรัดหน่วยงานอำนวยความสะดวกในการจัดทำข้อมูลทะเบียนเกษตรกรกลุ่มที่ 2 ซึ่งยังไม่เคยขึ้นหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เพื่อให้เงินช่วยเหลือ เยียวยาผู้ได้รับรับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ถึงมือเกษตรกรอย่างทั่วถึงและเร็วที่สุด โดยกำหนดให้ดำเนินการภายในวันที่ 15 พฤษภาคม
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรรายงานว่าได้มอบหมายให้อาสาสมัครเกษตรกรหมู่บ้าน (อกม.) ซึ่งทั่วประเทศมีถึง 75,105 ราย ทำหน้าที่แจ้งมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์การขึ้นทะเบียน จัดระเบียบผู้เข้ารับการบริการ รวมทั้งตอบคำถาม คัดกรอง วัดอุณหภูมิ ตรวจสอบและรับรองการขึ้นทะเบียน หลังจากนั้น อกม. จะส่งข้อมูลต่อให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอดำเนินการต่อ ทำให้งานรวดเร็วขึ้น อีกทั้งเกษตรกรไม่ต้องเดินทางและแออัดอยู่ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ
ขณะนี้เกษตรกรจำนวนหนึ่งยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ซึ่งทางกรมส่งเสริมการเกษตรเร่งชี้แจงว่าผู้ที่ขึ้นทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี 2562 -2563 ไม่จำเป็นต้องขึ้นทะเบียนใหม่หรือปรับปรุงข้อมูลในทะเบียน แต่สามารถตรวจสอบรายชื่อได้จากประกาศที่ติดไว้ในหมู่บ้านหรือชุมชนที่ตั้งแปลงปลูก หากขึ้นทะเบียนเกษตรกรนานกว่า 3 ปี โดยไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลในทะเบียนต้องเร่งมาปรับปรุงข้อมูล เพื่อระบบจะไม่ตัดออกจากทะเบียนเกษตรกร สำหรับเกษตรกรเช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตรกังวลว่าจะขึ้นทะเบียนไม่ได้ ขอชี้แจงว่าสามารถขึ้นได้ โดยต้องนำเอกสารการเช่าที่ดินไปประกอบ สำหรับผู้ที่มีบัญชีธนาคารอื่น ที่ไม่ใช่บัญชี ธ.ก.ส. สามารถได้รับเงินช่วยเหลือได้ โดยต้องแจ้งแก่หน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนและ ธ.ก.ส. ว่า มีบัญชีธนาคารใด แต่จะล่าช้ากว่าผู้มีบัญชี ธ.ก.ส.เล็กน้อย เนื่องจากกระทรวงการคลังจะโอนเงินให้ ธ.ก.ส. หากเป็นบัญชี ธ.ก.ส. กลไกการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรจะทำได้ทันที ส่วนธนาคารอื่นจะมีขั้นตอนการโอนระหว่างธนาคาร แต่ยืนยันว่าใช้บัญชีธนาคารใดก็ได้
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า เกษตรกรกลุ่มที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ขึ้นทะเบียนใหม่และต้องปรับปรุงข้อมูลในทะเบียนประมาณ 1.67 ล้านคนนั้น หลังจากวันที่ 15 พฤษภาคม ทางสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรนายทะเบียนจะใช้ตรวจสอบเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เพื่อไม่ให้มีการขึ้นทะเบียนซ้ำซ้อนหลายหน่วยงาน คาดว่า ใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน จากนั้นจะส่งไปยังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อตรวจสอบไม่ให้ซ้ำซ้อนกับสิทธิ์ช่วยเหลืออื่น ๆ ดังนั้น เกษตรกรที่ส่งรายชื่อกระทรวงการคลังกลุ่มแรกและกลุ่มที่ 2 นี้จะได้รับเงินเยียวยางวดแรกภายในเดือนพฤษภาคมทั้ง 10 ล้านราย
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า มีเกษตรกรรายใหม่เพิ่งเพาะปลูก แต่ระเบียบของกรมส่งเสริมการเกษตรกำหนดว่าจะขึ้นทะเบียนได้หลังจากเพาะปลูก 15 วัน ซึ่งอาจไม่ทันกำหนดสิ้นสุดการขึ้นทะเบียนวันที่ 15 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่จึงขึ้นทะเบียนให้ไม่ได้ แต่กระทรวงเกษตรฯ กำลังเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเปิดช่องทางให้อุทธรณ์ได้ ขอให้เกษตรกรมั่นใจเนื่องจากรัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ มุ่งหวังที่จะช่วยเหลือทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกทั้งนอกจากเงินเยียวยาแล้ว หลังสถานการณ์ของโรคคลี่คลายจะมีมาตรการฟื้นฟูอาชีพต่อไป.-สำนักข่าวไทย