ถอดบทเรียนสิงคโปร์ ป้องกันโควิด-19 ระบาดซ้ำ

4 พ.ค. – หลังรัฐบาลเริ่มผ่อนปรนมาตรการในหลายพื้นนี้ และบางกิจการแล้ว สิ่งที่เน้นย้ำต่อเนื่องคือ การป้องกันตัวเอง ไม่ไปพื้นที่เสี่ยง ทั้งการใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อไม่ให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาสูงอีก เช่น ประเทศสิงคโปร์ ที่แม้รัฐบาลจะมีมาตรการควบคุมโรคระบาดเข้มงวด แต่พบจุดเปลี่ยนสำคัญคือการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในแรงงานข้ามชาติ จนผู้ติดเชื้อแตะหลักหมื่นคน


ข้าวสารและอาหารแห้งเหล่านี้ คือความช่วยเหลือของสมาคมคนไทยสิงคโปร์ที่มอบให้แรงงานไทยขณะถูกกักตัวในหอพัก ตามมาตราการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่สั่งล็อกดาวน์หอพักที่มีแรงงานข้ามชาติอาศัยทั้งหมด 43 แห่ง หลังเกิดการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนในแรงงานข้ามชาติ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้สิงคโปร์มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแตะหลักหมื่นคน ในจำนวนนี้พบว่าเป็นคนไทยกว่า 80 คน 


กรรมการสมาคมคนไทยสิงคโปร์ให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ เพราะพวกเขาต้องอาศัยรวมกันในหอพัก ห้องละไม่ต่ำกว่า 10 คน ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ปัจจุบันมีแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงานในสิงคโปร์กว่า 300,000 คน ในจำนวนนี้ 30,000 คน เป็นชาวไทย ส่วนใหญ่มาทำงานในไซต์งานก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้ต้องหยุดงานอยู่แต่ในหอพักเพื่อกักตัว


มาตรการที่สิงคโปร์ใช้ควบคุมการแพร่ระบาด คือ ขยายมาตรการปิดเมือง และตัดวงจร หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ จนถึง 1 มิถุนายน ขณะที่ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ นอกจากการกักตัวและตั้งหน่วยงานเพื่อดูแลกลุ่มแรงงานโดยเฉพาะแล้ว ยังเพิ่มการตรวจหาผู้ป่วยเชิงรุก ส่งแพทย์ พยาบาลไปประจำตามหอพัก รวมถึงหาสถานที่กักตัวให้ใหม่ และสร้างโรงพยาบาลสนาม 

ส่วนมาตรการส่วนบุคคล คนไทยในสิงคโปร์บอกว่า ทางการยังบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัย เมื่อออกจากบ้านทุกครั้ง หากพบการฝ่าฝืนก็จะถูกจับ และปรับเงิน 300 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเกือบ 7,000 บาท และยังมีอีกหลายมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสิงคโปร์ ยังถูกนำมาใช้กรณีศึกษาในไทย ตั้งแต่การเฝ้าระวังกลุ่มแรงงานข้ามชาติในประเทศ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่รัฐบาลเริ่มผ่อนปรน ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ระบุว่า แม้มีมาตรการผ่อนปรนในหลายพื้นที่และบางกิจการแล้ว แต่ประชาชน ยังต้องระมัดระวังมากกว่าเดิมในการใช้ชีวิต 

ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการแพร่เชื้อขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่พบปะกัน ระยะเวลาที่พูดคุยใกล้ชิด การป้องกันตัวเองจากการแพร่เชื้อและติดเชื้อ ทำให้การใช้ชีวิตหลังจากนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะโควิด-19 เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจที่ติดต่อกันง่าย การดำเนินนโยบายเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เช่น การใส่หน้ากากอนามัย ไม่เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง และการเว้นระยะทางสังคมยังเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดโอกาสติดเชื้อให้มากที่สุด. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย ก่อเหตุ จยย.บอมบ์

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย คาดเป็นคนร้ายก่อเหตุ จยย.บอมบ์ ปัตตานี มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย ทั้งเจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ และชาวมาเลเซีย

พิธีสืบพระชะตาหลวง

รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ พิธีสืบพระชะตาหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

รัฐบาลจัดพิธีสืบพระชะตาหลวงและพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หลวง อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย