“นฤมล” สั่งคุมเข้มสารปนเปื้อน หลังจีนตรวจพบสารย้อมสีในทุเรียนจากไทย

กรุงเทพฯ 13 ม.ค.-“รมว.นฤมล” สั่ง Set Zero สารปนเปื้อนในผลไม้ พร้อมวางมาตรการใหม่ในการตรวจสอบอย่างเข้มงวดภายใน 10 วัน หลังจากศุลกากรจีนตรวจพบสารย้อมสี Basic Yellow 2 ในทุเรียนจากไทยและสั่งระงับการนำเข้าชั่วคราว เตรียมหารือทางการจีนในการเยือนต้นเดือนหน้า เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพผลไม้จากไทย

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 1/2568 โดยมีวาระเร่งด่วนเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าผักผลไม้ไทย โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการเกษตร ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง และกรุงโตเกียว เข้าร่วม


การหารือวาระเร่งด่วนเกี่ยวกับแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าผักผลไม้ไทย สืบเนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีนระงับการนำเข้าทุเรียนของไทย ภายหลังตรวจพบการใช้สาร Basic Yellow 2 ในทุเรียนนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่นิ่งนอนใจ โดยตนเน้นให้ความสำคัญในการควบคุมมาตรฐานสินค้าผักและผลไม้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบเพิ่มมาตรการตรวจเข้มข้นโดยตรวจทุกตู้ที่มีการส่งออก 100% รวมไปถึงการตรวจสารสารแคดเมียม หนอนทุเรียน และสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไยด้วย หากตรวจพบจะดำเนินการตามบทลงโทษ ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร

ศ.ดร. นฤมลกล่าวว่า ภายใน 10 วันจะกำหนดมาตรการการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้นให้แล้วเสร็จ โดยจะดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อยกระดับคุณภาพและความเชื่อมั่นในทุเรียนไทย พร้อมกันนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจตามล้งต่างๆ แล้ว โดยพื้นที่ภาคใต้ที่จังหวัดชุมพรและนครศรีธรรมราชเป็นพื้นที่ที่จะต้องดำเนินการก่อนเนื่องจากผลผลผลิตทุเรียนกำลังจะทยอยออกสู่ตลาด ขณะเดียวกันได้ประสานกับกรมการค้าภายในช่วยดูแลเรื่องราคาทุเรียน ขอความร่วมมือผู้รับซื้อทุเรียน ไม่ให้มีการกดราคา ขอให้ความมั่นใจกับเกษตรกรว่า กระทรวงเกษตรฯ เร่งรัดที่จะแก้ไขปัญหานี้ ให้คลี่คลายเร็วที่สุด


นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 5 – 7 ก.พ.นี้ ตนจะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมกับนายกรัฐมนตรีฯ อย่างเป็นทางการซึ่งจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับทางสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of Customs of the. People’s Republic China) GACC ถึงการดำเนินมาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นในสินค้าผักผลไม้ของไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและส่งออกสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร เนื่องจากสินค้าผักผลไม้ของไทยที่ส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยปี 2567 (ม.ค. –พ.ย.) ไทยส่งออกผลไม้สด 1.817 ล้านตัน มูลค่า 177,131 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรมวิชาเกษตรได้ออกประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง มาตรการควบคุมการปนเปื้อนสารห้ามใช้ในทุเรียนผลสดส่งออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ. 2568 โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 10 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้ 1) กรณีที่มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ต้องใช้ทั้งชนิดและปริมาณที่ถูกต้อง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง หรือตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 หรือข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า 2) กรณีตรวจพบโรงคัดบรรจุใช้สารห้ามใช้หรือมีสารห้ามใช้ไว้ในครอบครอง จะถูกระงับการส่งออกและนำไปสู่การยกเลิกหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืชก็ได้ และ 3) กรณีเจ้าหน้าที่สงสัยว่าทุเรียนมีการใช้สารห้ามใช้ ให้มีอำนาจสั่งให้โรงคัดบรรจุนำผลทุเรียนนั้นไปตรวจวิเคราะห์กับห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาออกใบรับรองสุขอนามัยพืช

สำหรับสถิติการส่งออกผลไม้ไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ปี 2565 – 2567 พบว่า ปริมาณการส่งออกทุเรียนลดลง ขณะที่ปริมาณการส่งออกลำไยสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 101,884 ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณรวม 1,824,815 ตัน มูลค่ารวม 134,954 ล้านบาท โดยมีปริมาณการส่งออกลดลงจากปี 2565 และปี 2566 โดยเป็นการส่งออกทุเรียน จำนวน 52,960 ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณ 824,777 ตัน มูลค่า 88,806 ล้านบาท ในส่วนของการส่งออกลำไย จำนวน 15,102 ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณ 375,327 ตัน มูลค่า 16,018 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรรายงานอีกด้วยว่า ได้เตรียมยื่นขอเปิดตลาดส่งออกลำไยทุกประเภทจากไทยไปฟิลิปปินส์ เพื่อขยายตลาดเพิ่มขึ้น.-512.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย ก่อเหตุ จยย.บอมบ์

กล้อง CCTV จับภาพผู้ต้องสงสัย 2 ราย คาดเป็นคนร้ายก่อเหตุ จยย.บอมบ์ ปัตตานี มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย ทั้งเจ้าหน้าที่ อส. ตำรวจ และชาวมาเลเซีย

พิธีสืบพระชะตาหลวง

รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ พิธีสืบพระชะตาหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

รัฐบาลจัดพิธีสืบพระชะตาหลวงและพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หลวง อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย