ศธ.29 เม.ย.-รมว.ศึกษาฯ ให้โจทย์วิทยาลัยอาชีวะทั่วประเทศ เตรียมศักยภาพ พัฒนาเด็กอาชีวะ รองรับตลาดแรงงานของประเทศ หลังโควิด-19 คลี่คลาย ขณะที่การเตรียมเรียนการสอนต้องจัดกะ สอดคล้องกับสถานการณ์
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วยนายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมประชุมผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาครัฐ และเอกชน ผ่านระบบ Video Conference ถึง แนวทางการจัดการเรียนการสอนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ก่อนเปิดการเรียนการสอน 1 ก.ค.นี้
รมว.ศธ.กล่าวว่า หลังหารือกับผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษา ภาครัฐ และเอกชน ได้เตรียมแนวทาง เพื่อรองรับกับสถานการณ์โควิด-19 อาจจะต้องมีการแบ่งกะในการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ ไม่ให้มีการรวมตัวของนักเรียนคราวละมากๆ แต่ละวิทยาลัยจะต้องไปจัดวันและเวลาการสอน ให้เหมาะสมตามความพร้อมของตนเอง ส่วนภาคทฤษฎีมีแนวทางในการเรียนการสอนออนไลน์อยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ได้ให้แนวทางว่าอาชีวะมีความสำคัญมากกับการเติบโตทางธุรกิจ การขยายตัวของภาคการลงทุน ดังนั้นทรัพยากรที่ผลิตออกจากอาชีวะย่อมมีความสำคัญ ต้องมีความเข้มข้นในการพัฒนาต่อเนื่องเพื่อรองรับธุรกิจของประเทศในอนาคต สามารถเป็นตัวหลักในการขยายตัวทางธุรกิจของประเทศได้ พร้อมเน้นย้ำให้ดึงศักยภาพและความโดดเด่นของแต่ละวิทยาลัยออกมา สร้างจุดแข็ง ตรงกับความต้องการของตลาด ทั้ง ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เกษตร การบริการ
นอกจากนี้ได้ประสานกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ขอความร่วมมือในการช่วยเหลือเพื่อความเสถียรในการสอนออนไลน์ ส่วนอุปกรณ์การเรียนการสอน ให้ใช้อุปกรณ์ที่แต่ละวิทยาลัยมีอยู่ เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ โน๊ตบุ๊ค และบางส่วนก็เรียนผ่านสมาร์ทโฟนส่วนตัว ของนักเรียน มองว่าการเรียนการสอนออนไลน์ภาคทฤษฎีไม่น่ามีปัญหา
พร้อมให้แนวทางกับอาชีวะในการเตรียมการหลังโควิด-19 ครูต้องเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์การสอนให้ทันสมัยกับอนาคต หากยังสอนอุปกรณ์แบบเก่า เด็กก็ไม่สามารถนำความรู้มาใช้งานได้ในอนาคต การบริหารจัดการใหม่เพื่อรองรับเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
รมว.ศึกษาฯ ย้ำว่า เมื่อโรงเรียนขยับเปิดไปวันที่1ก.ค.63ไม่ได้บอกว่าอยากให้สอนออนไลน์ แต่ความตั้งใจคือ ให้สอนที่โรงเรียนก่อน แต่หาก ไม่พร้อมก็ต้องสอนออนไลน์ หากโรงเรียนใดสอนที่โรงเรียนต้องมีมาตรการเว้นระยะห่าง ดูความปลอดภัยของครูและเด็กเป็นที่ตั้ง หากทำไม่ได้ให้เปลี่ยนเป็นมาตรการอื่นต่อไป .-สำนักข่าวไทย
