ทำเนียบ 5 พ.ย. – “ทวี” พร้อมให้ข้อมูล ป.ป.ช. หลังขอเวชระเบียน “ทักษิณ” ยันทำตามระเบียบกฎหมาย เผยผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นต่าง กสม. มีช่องสู้คดี ปัดตอบ “บิ๊กโจ๊ก” ดอดพบชั้น14
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป. ช.) ขอเวชระเบียนการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงยุติธรรมกับกรมราชทัณฑ์ มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร ว่า กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ ยินดีให้ความร่วมมือเท่าที่ทราบ ให้ดำเนินการหลายรอบแล้ว ตามกฎหมาย และยินดีปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งสังคมอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน ในเรือนจำมีความหมายคือตัวสถานที่ เรือนจำ 437 แห่ง และตามกฎกระทรวง ในกฎหมายคือโรงพยาบาลและยังมีที่คุมขังอื่น ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเจตนารมณ์ของกฎหมายที่แก้ไขในสมัย คสช. โดยที่คุมขังอื่นเพื่อลดปัญหาความแออัดในเรือนจำ และทำอย่างไรเพื่อเป็นการพัฒนาพฤติวิสัย นอกจากนี้ที่สำคัญ ในโรงพยาบาลคือการคุมขังหรือกักขังไม่ให้หลบหนี เพื่อก่อเหตุร้าย ดังนั้นการจะอยู่ที่ไหน ก็ต้องมีหลักเกณฑ์และกฎหมาย เช่น ถ้าเจ็บป่วยต้องส่งตัวโดยเร็ว อยู่ที่ไหนก็ต้องปฏิบัติเหมือนเรือนจำ
“ผมเชื่อว่ากรมราชทัณฑ์จะส่งหลักฐานไปให้ในกรณีของนายทักษิณ ก็อยู่ครบไม่มีสักนาทีเดียวที่ออกมา อยู่ที่โรงพยาบาลในทางปฏิบัติไม่สามารถออกมาข้างนอกได้” พันตำรวจเอกทวีกล่าว
ส่วนข้อสงสัยที่ว่าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็มี ทำไมถึงไปที่โรงพยาบาลตำรวจนั้นพันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า โดยเฉลี่ยแล้ว จะพิจารณาว่า ผู้ถูกคุมขังจะไปอยู่โรงพยาบาล ข้างนอก แบบไปบ้างกลับบ้างประมาณ 70,000 คน บางคนไปวันเดียวบางคนไปประจำ แต่รายละเอียดขอเป็นเรื่องเฉพาะกรณี แต่เรายินดีให้ข้อมูลทั้งหมด แม้กระทั่งกรณีที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหนังสือมา รวมไปถึงทางวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องเดียวกันผู้ เสียหายคนเดียวกัน แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินบอกว่าไม่มีความผิด ส่วนกรรมการสิทธิ์บอกว่าละเมิดสิทธิ์ ในทางกฎหมาย ถ้าหน่วยงานหรือองค์กรอิสระไหนรับไว้สอบสวน อีกองค์กรหนึ่ง ไม่ควรมีความเห็นต่างกัน
ส่วนการเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์หรือไม่นั้น พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า การเยี่ยมอยู่ในระเบียบการเยี่ยม ซึ่งกรมราชทัณฑ์ชี้แจงและมีเจ้าหน้าที่ และสามารถขอหลักฐานได้ คำพูดของคนเปลี่ยนแปลงได้แต่หลักฐาน มันย้อนไปได้ ซึ่งเราปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการถ้าเห็นว่ากฎหมายไม่ถูกก็ต้องแก้กฎหมาย เราไม่ทำอะไร นอกเหนือกฎหมาย
พันตำรวจเอกทวี กล่าวอีกว่า ไม่ได้รับรายงานว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ได้ไปพบนายทักษิณด้วย
ส่วนการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินระบุว่าไม่ผิด แต่กรรมการสิทธิมนุษยชนบอกว่าละเมิดสิทธิ์ จะเป็นข้อได้เปรียบในการต่อสู้คดี ของกรมราชทัณฑ์หรือไม่นั้น พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า เท่าที่กรมราชทัณฑ์ได้ดูพบว่ากรรมการสิทธิมนุษยชน ไม่ได้สอบความเห็น แต่ผู้ตรวจการแผ่นดินสอบความเห็นพยาน และเข้าไปพบด้วย.-319-สำนักข่าวไทย