ธปท. หวังเร่งกระจายวัคซีนทั่วถึง ห่วงตลาดแรงงานทรุด

กรุงเทพฯ 14 พ.ค.-ธปท.รับกังวลเศรษฐกิจและตลาดแรงงานทรุด ลุ้นรัฐเร่งกระจายวัคซีนตามแผน

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดโควิดระลอก 3 รุนแรงกว่าที่ผ่านมา คาดกระทบจีดีพีที่ร้อยละ 1.4 – 1.7% ขณะที่การระบาดระลอก 2 กระทบจีดีพีที่ 1.2% โดยการระบาดที่รุนแรง และยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งการระบาดระลอก 3 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับลดลงเร็ว คาดว่าต้องใช้มาตรการคุมเข้มไปอีกระยะหนึ่ง และต้องใช้เวลากว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ดี หากมีการฉีดวัคซีนเร็วขึ้นจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ถึงร้อยละ 3.0-5.7ในช่วงปี 2564 – 2565


ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยหลังถูกผลกระทบโควิด-19 ระลอกที่ 3 มีตัวแปรสำคัญ คือ การฉีดวัคซีน ซึ่งขึ้นอยู่กับความเร็วในการฉีด เพราะรอบนี้กระจายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้การเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ช้าลงกว่าเดิม โดยหากฉีดวัคซีนได้ 2.7 – 3.3 แสนโดสต่อวัน จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ภายในไตรมาส 3/65 ซึ่งล่าช้าจากเดิมที่คาดว่าจะเป็นไตรมาส 2/65 แต่หากต้องการให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในไตรมาสแรกปี 65 จะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 5-6 แสนโดสต่อวัน หรือ มากกว่า 4 เท่าจากปัจจุบันฉีดต่อวัน 1.5 แสนโดส

นอกจากนี้ หากฉีดวัคซีนได้เร็วจะมีผลต่อเวลาการเปิดประเทศ ซึ่งหากในปีนี้ฉีดวัคซีนได้ 64.6 ล้านโดส จะทำให้เปิดประเทศในไตรมาส 4/65 แต่หากกรณีเลวร้าย โดยจัดหาหรือกระจายวัคซีนได้น้อยกว่า 64.6 ล้านโดสในปีนี้ นอกจากจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ล่าช้าไปถึงไตรมาส 4/65 แล้ว ยังทำให้การเปิดประเทศเลื่อนออกไปหลังปี 2565 อีกด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก โดยสิ่งสำคัญ คือ การฉีดวัคซีนให้เร็ว เพื่อจะได้สร้างภูมิคุ้นกันหมู่เร็ว และ เปิดประเทศเร็วขึ้นตามไปด้วย ส่งผลดีต่อการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และ ถ้าอนาคตภาครัฐหางบจัดหาวัคซีน และช่วยกระตุ้นการจับจ่ายเพิ่มเติมจะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีกว่านี้


ขณะที่การระบาดโควิด-19 ระลอกนี้ ในระยะสั้นกระทบต่อฐานะทางการเงินประชาชนและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มภาคท่องเที่ยว บริการ และร้านอาหาร ทำให้ ธปท. และ ภาครัฐออกมาตรการดูแลสนับสนุนต่อเนื่อง ขณะที่ภาคเศรษฐกิจและธุรกิจได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน ซึ่งภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบไม่มาก โดยเฉพาะส่งออกที่คำสั่งซื้อยังมี จากเศรษฐกิจคู่ค้าปรับตัวดีขึ้น และปรับตัวด้วยการใช้เครื่องจักรเข้ามาทดแทน โดย ธปท. มีความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน เพราะสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งยืดเยื้อ จะทำให้แรงงานหางานทำได้ยากขึ้น เนื่องจากมีโอกาสสูญเสียทักษะการทำงานไป โดยกลุ่มผู้ว่างงานส่วนจะเป็นกลุ่มบริการ และกลุ่มคนจบใหม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ