ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด

ทำเนียบ 20 ส.ค.-ศบ.ทก.​ ยืนยันคลิปทหารกัมพูชาเป็นของจริง​ ชี้​ชัดละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิด ขัดอนุสัญญาออตตาวา เตรียมยื่นหลักฐานศุกร์นี้ ย้ำพื้นที่บ้านหนองจาน​ จ.สระแก้ว​ เป็นอธิปไตยไทย​ 100% หลังปี​ 2518 ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามฆ่าล้าง​เผ่าพันธุ์​ แต่ไม่ยอมกลับ​

พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม​ และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ ประจำวันพุธที่ 20 สิงหาคม​ 2568


พลเรือตรี​สุร​สันต์​ กล่าวว่า​ สถานการณ์ชายแดนทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ ขณะที่การตรวจพบโทรศัพท์มือถือของฝ่ายกัมพูชา โดยกองทัพเรือ ได้พบหลักฐานสำคัญ​ ยืนยันว่าทหารกัมพูชา​ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN 2 บริเวณภูมะเขือ สืบเนื่องมาจากวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม​ กองทัพเรือ ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติการกู้ระเบิดและกวาดล้างในพื้นที่ภูมะเขือ​ จังหวัดศรีสะเกษ ของกองร้อยทหารราบที่ 132 กองพันที่ 13 ฐานเหนือเมฆ​ ได้ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง​ พบมีคลิปวีดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าทหารกัมพูชา กำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN 2 ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล รวมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาขแมร์ ซึ่งเป็นการสาธิตการใช้งานทุ่นระเบิดดังกล่าว ก่อนนำไปลักลอบฟังในพื้นที่ชายแดน

หลักฐานดังกล่าว ยังระบุถึงวันที่และเวลาที่ถ่ายภาพ รวมไปถึงสถานที่ โดยมีการระบุอย่างชัดเจน ถือเป็นหลักฐานสำคัญในการยืนยันพฤติกรรมละเมิดข้อตกลงใช้ทุ่นระเบิดขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง หลักฐานเหล่านี้กองทัพได้จัดส่งไปให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อนำไปเป็นหลักฐานที่จะประกอบยืนยันการละเมิดข้อตกลงของทางกัมพูชา ที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวาที่จะมีการประชุมในวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคมที่จะถึง


พลตรีสุรสันต์​ ยังกล่าวถึง​ การปฏิบัติของชุดผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ในพื้นที่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นการปฏิบัติในช่วงของวันที่ 18-20 สิงหาคม เป็นการปฏิบัติตามข้อตกลง การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ​ GBC​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้ลงนามไว้เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญ คือ วันที่ 18 สิงหาคมชุดผู้สังเกตการชั่วคราวได้รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์บริเวณกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22 จังหวัดอุบลราชธานี พบปะพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทั้งมณฑลทหารบกที่ 22 และกองทัพภาคที่ 2 โดยรองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้แทนจากแม่ทัพภาคที่ 2 ให้การต้อนรับ และชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

จากนั้นวันที่ 19 สิงหาคม​ คณะผู้สังเกตการณ์ได้ไปสังเกตการณ์ในพื้นที่ช่องอานม้า​ จังหวัดอุบลราชธานี้​ เป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเข้ามาเก็บลวดหนามของฝ่ายไทยที่วางไว้ เป็นเครื่องกีดขวาง​ไม่ให้เกิดการลุกลามเข้ามา​ โดยมีการชี้แจงให้คณะได้ทราบว่าในพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน ต่อจากนั้นได้ไปสังเกตการณ์ยังผามออีแดง ​รับฟังการชี้แจงแนวทางการยิงของฝ่ายกัมพูชา​ โดยอาวุธจรวด BM 21 ยิงเข้ามา​ ทำให้ไทยเกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

ก่อนที่คณะจะไปสังเกตการณ์ยังพื้นที่ภูมะเขือ​ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทางทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด​ และมีการตรวจพบทุ่นระเบิดเพิ่มเติม​ ทั้งนี้ฝ่ายไทยได้ชี้แจงให้เห็นถึงการปฏิบัติของฝ่ายไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่มีการตรวจพบดังกล่าวด้วย​ รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยช่วยเหลือในการส่งศพของทหารกัมพูชาที่อย่างตกค้างในพื้นที่​ ซึ่งเดิมฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธ​ที่จะรับกลับไปยังประเทศ แต่หลังจากที่มีการเจรจาทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้วให้ฝ่ายกัมพูชายอมรับนำศพกลับไป ส่วนวันที่ 20 สิงหาคมผู้สังเกตการณ์จะไปสังเกตการณ์แนวสถานที่การควบคุมเฉลยศึกกัมพูชา 18 คน​ ตามอนุสัญญาเจนีวารวมทั้งเดินทางไปยังโรงพยาบาลพนมดงรัก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากจรวด BM 21 และจุดจุ๊บตะโมก​ที่ทหารไทยของทหารพรานที่ 2610 เหยียบทุ่นระเบิด


หลังจากนี้​กองทัพไทย จะจัดประชุมสรุปผลการปฏิบัติในวันที่ 21 สิงหาคม​ รวมทั้งจัดตั้งสำนักงานประสานงานกับคณะผู้สังเกตการณ์ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยผู้สังเกตการณ์อาเซียน​ จะนำข้อมูลที่ได้ไปแจ้งในสายงานกองบังคับการของตัวเอง ซึ่งในปัจจุบันทางคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนจะใช้สำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย เป็นสำนักงานการประสานของคณะดังกล่าว

ขณะที่พื้นที่บ้านหนองจาน​ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเดิมเคยเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราว ที่ฝ่ายไทยให้ชาวกัมพูชาหนีภัยสู้รบในอดีตปี 2518 จากสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ภายในประเทศกัมพูชา เกิดคลื่นมนุษย์จำนวนหลายแสนคนอพยพหนีตายข้ามแดนมายังฝั่งไทย ตามคำร้องขอของ UNSCR และหลักมนุษยธรรม แต่เวลาต่อมาเมื่อสถานการณ์สิ้นสุดลง แม้ว่าจะมีผู้อพยพส่วนใหญ่เดินทางกลับไปยังกัมพูชา แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงค้างอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว มิหนำซ้ำยังตั้งชุมชนรุกล้ำแผ่นดินประเทศไทย ที่เคยเป็นการช่วยเหลือในการจัดตั้งศูนย์พักพิงผู้อพยพ​ ซึ่งถือเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจหรือ MOU ปี 2543 อย่างชัดเจน ด้วยการปฏิบัติของฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีการประท้วงไปอยู่หลายครั้ง ยังฝ่ายกัมพูชา ซึ่งแสดงถึงเจตนารมที่แน่วแน่ในการปฏิบัติตนเพื่อเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรและหารือข้อขัดแย้งผ่านกลไกทวิภาคีที่เหมาะสม ใช้กลไกกรรมาธิการเขตแดนร่วมหรือ JBC​ แต่ฝ่ายกัมพูชาใช้ประชาชนของตนเป็นกำแพงมนุษย์ล้ำในเขตอธิปไตยของไทยอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดน

“ประเทศไทยเคยให้ความช่วยเหลือกัมพูชามาในอดีต ทั้งเรื่องของมนุษยธรรมในการให้เป็นพื้นที่หลบภัยจากสงครามให้กับประชาชนชาวกัมพูชาหลายแสนคน​ แต่กลับโดนบิดเบือนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของไทยที่ยื่นให้​ นำความช่วยเหลือนี้ไปบุกรุกพื้นที่อธิปไตยของไทย​ รวมถึงเป็นพื้นที่ที่ประชาชนคนไทยได้เคยทำมาหากิน​ จนกระทั่งทำให้ประชาชนดังกล่าวต้องอพยพออกจากพื้นที่​ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่จริงใจของฝ่ายกัมพูชาและเจตนาร้ายในการรุกล้ำพื้นที่ของประเทศไทยอย่างชัดเจน” พลเรือตรี​สุร​สันต์​ กล่าว

ขณะที่การติดตั้งแนวเครื่องกีดขวางลวดหนามต่างๆของไทย​ พลเรือตรี​สุร​สันต์​ ยืนยันว่าเป็นสิทธิในการดำเนินการเพื่อปกป้องและคุ้มครองความปลอดภัยให้กับประชาชนไทยและกองกำลังด้านความมั่นคงของไทย ป้องกันไม่ให้มีการรุกล้ำเพิ่มเติม​เข้ามาอีก​ รวมทั้งเป็นการป้องกันการลักลอบวางทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา การดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามข้อตกลงของคณะกรรมการ GBC ที่ได้มีการลงนามไปเมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายตกลงว่าจะละเว้นการสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกนอกเขตของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งบริเวณดังกล่าวไม่ได้เป็นการละเมิด แต่พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทย 100%

ด้านนางมาระตี​ กล่าวถึงคลิปการวางทุ่นระเบิด​ มีความพยายามบิดเบือน ว่าเป็นนักแสดงไทยนำชุดทหารกัมพูชามาสวมใส่และแสดงละคร ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า คลิปวีดีโอที่เก็บภาพเหตุการณ์จริง และจะนำไปประกอบเป็นหลักฐานข้อมูลที่ฝ่ายไทยจะนำไปชี้แจง ของกัมพูชาได้อย่างดีในกรอบของอนุสัญญาออตตาวา​ ที่ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังเดินเรื่องอยู่ และวันที่ 22 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมของคณะกรรมการกรอบอนุสัญญาออตตาวา ​ที่ดูแลเรื่องของการปฏิบัติตามอนุสัญญาเป็นการเฉพาะ.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย