ป.ป.ส. 3 ต.ค.-ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงผลปฏิบัติการ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส ภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) ประกอบด้วย ศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สืบสวนติดตามพฤติการณ์เกี่ยวกับการเดินทางที่ต้องสงสัยของชาวต่างชาติ ที่ใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่านในการลำเลียงกัญชาเพื่อไปยังปลายทางประเทศในยุโรป โดยจากการติดตามเฝ้าระวัง พบว่าเครือข่ายดังกล่าวเดินทางออกจากประเทศไทย ในวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2567 โดยผ่านประเทศสิงคโปร์เพื่อไปยังประเทศอิตาลี และประเทศอังกฤษ
ตนได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานการดำเนินการร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และกรมศุลกากร ปฏิบัติงานตามโครงการสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน AITF มอบหมายเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติการสกัดกั้นลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งออกไปยังประเทศที่สาม (ประเทศอิตาลี, อังกฤษ) สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติรวม 3 คน โดยพบ กัญชา รวมทั้งหมด 89 กิโลกรัม มีรายละเอียดการจับกุม 2 คดี ดังนี้
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และ กรมศุลกากร จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติสิงคโปร์ 1 คน พร้อมช่อดอกกัญชา 19 กิโลกรัมซุกซ่อนภายในกระเป๋าสัมภาระ ขณะเตรียมเดินทางไปประเทศสิงคโปร์เพื่อเปลี่ยนเครื่องไปประเทศอิตาลี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “พยายามนำออกซึ่งพืชสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) ออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่มีใบอนุญาต และไม่สำแดงสิ่งของตามกฎหมายศุลกากร
ต่อมาวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และ กรมศุลกากร ได้ปฏิบัติการตรวจค้นเพิ่มเติม สามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติมาเลเซีย 2 คน ที่มีกำหนดการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์ ก่อนเปลี่ยนเครื่องไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากการตรวจค้นสัมภาระ พบ กัญชาซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสัมภาระรวม 4 ใบ น้ำหนักรวม 70 กิโลกรัม
เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า ความสำเร็จในการจับกุมในครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานในการสกัดกั้นและป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติงานในท่าอากาศยานที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของเส้นทางการขนส่งยาเสพติดข้ามชาติ ที่มักใช้เส้นทางผ่านประเทศไทยเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดที่มีแนวโน้มใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่าน และขอความร่วมมือประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสหรือข้อมูล
ที่อาจนำไปสู่การป้องกันปัญหายาเสพติด หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง.-119.-สำนักข่าวไทย