กทม.26 เม.ย.-“นพ.ยง” โพสต์ 12 ข้อเท็จจริงโรคโควิด-19 กับการตรวจภูมิต้านทาน โดย WHOชี้การตรวจพบภูมิไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันถึงการป้องกันโรคที่จะไม่ให้เป็นซ้ำ ขณะที่ rapid test ที่ตรวจเร็ว อาจสร้างความสับสนในการแปลผล ทั้งผลบวกปลอม-ลบปลอม
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง “โควิด-19 การตรวจภูมิต้านทาน” โดยมีรายละเอียดว่า
“โควิด-19 การตรวจภูมิต้านทาน
1.องค์การอนามัยโลกรายงานว่าการตรวจพบภูมิต้านทานไม่ได้เป็นเครื่องยืนยัน หรือเป็นใบเบิกทาง ถึงการป้องกันโรคที่จะไม่ให้เป็นซ้ำได้อีก
2. ภูมิต้านทานที่ตรวจ มีทั้ง IgG และ IgM กว่าจะขึ้นให้ตรวจพบได้ ต้องใช้เวลา 1-2 อาทิตย์หลังมีอาการ ระบบภูมิต้านทาน ไม่ใช่มีเพียงแค่ antibody ยังมีระบบอื่นร่วมด้วย ตามทฤษฎีของภูมิคุ้มกันวิทยาที่เป็นแบบแอนติบอดี้และอาศัยเซลล์
3.องค์การอนามัยโลกได้ทบทวนการสร้างภูมิคุ้มกัน บางคนสร้างได้สูง บางคนสร้างได้ต่ำ
4.จากการศึกษาในปัจจุบัน 24 april ยังไม่มีรายงานใดที่จะบอกได้ว่าการมีภูมิต้านทานจะป้องกันไม่ให้เกิดโรคซ้ำได้อีก
5.การตรวจภูมิต้านทานที่อยู่ในท้องตลาด จำนวนมากเป็น rapid test หรือตรวจได้อย่างรวดเร็ว จะต้องคำนึงถึง ความถูกต้องของการตรวจ มีทั้งผลบวก ปลอม และผล ลบปลอม ซึ่งจะสร้างความสับสนในการแปลผล
6.การตรวจภูมิต้านทาน ไม่สามารถเอามาใช้ในการวินิจฉัย การติดเชื้อของผู้ป่วยในระยะเริ่มแรกได้ ต้อง 1-2 อาทิตย์ไปแล้ว
7.การตรวจได้ผลลบ ไม่ได้บอกว่าผู้นั้นไม่มีการติดเชื้อ การตรวจหาเชื้อที่หลังโพรงจมูกยังเป็นวิธีมาตรฐาน ผู้ป่วยอาจจะติดเชื้อ มีเชื้ออยู่ แล้วแต่ภูมิต้านทานยังไม่ขึ้น ผู้ป่วยสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ในระยะนี้
8.การตรวจได้ผลบวก ก็ยังมีผลบวกปลอม เพราะยังมี coronavirus ตัวอื่นๆ อาจจะให้ผลบวกปลอม
9.ในการระบาดที่นิวยอร์กพบว่าครึ่งหนึ่งเป็นแบบไม่มีอาการและการตรวจเชื้อ จะพบได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการเมื่อติดตามแล้วมีจำนวนเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่มีอาการ และยังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ (NEJM; April 24, 2020)
10.การตรวจกรองหาผู้ติดเชื้อ จึงควรใช้วิธีการตรวจหาเชื้อ มากกว่าที่จะใช้วิธีการตรวจหาภูมิต้านทาน ขณะนี้มีการนำเอาการตรวจหาภูมิต้านทานไปตรวจตามโรงงาน เพื่อหาการติดเชื้อ จะไม่มีประโยชน์ในการค้นหาผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ เพื่อการควบคุมการแพร่กระจายของโรค โดยเฉพาะโรงงานหรือแหล่งชุมชน
11.การตรวจเกมรุกเพื่อหาผู้ติดเชื้อและลดการแพร่กระจายเชื้อ จำเป็นจะ ต้องใช้วิธีตรวจหาเชื้อด้วยกระบวนการ PCR ถ้าบริหารจัดการให้ดี ในอนาคต ค่าตรวจควรจะลดลงได้มากกว่านี้มาก ประเทศไทยสามารถพัฒนาชุดตรวจได้เอง อย่างที่กรมวิทย์ทำ และแทนที่จะตรวจ 2 gene ถ้าตรวจเกมรุก เป็นการตรวจกรอง อาจจะตรวจ gene เดียวก็พอ ถ้าให้ผลบวก แล้วจึงค่อยตรวจยืนยันอีกครั้งเหมือนการตรวจไวรัสตัวอื่นๆที่รู้จักดี เราก็ตรวจยีนส์เดียว โควิด-19 ปัจจุบันเป็นโรคที่รู้จักดีแล้วในการตรวจ
12.ข้อมูลรายละเอียด อ่านเพิ่มเติมได้จาก NEJM 24 April และ https://www.who.int/news-room/commentaries/detail/immunity-passports-in-the-context-of-covid-19” .-สำนักข่าวไทย