กรุงเทพฯ 24 เม.ย.- ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล ขอรัฐทบทวนคลายล็อกดาวน์ให้สถานประกอบการและประชาชนมีรายได้ หวั่นตัวเลขคนฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจพุ่ง ชี้ระบบสาธารณสุขพร้อมช่วยให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ระบาดหนักรอบสอง
นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล และ ส.ส.เชียงราย กล่าวถึงการพิจารณาคลายล็อคดาวน์ ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการในการรับมือโควิด-19 แล้ว อย่างจังหวัดเชียงรายได้เตรียมเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยไว้ประมาณ 400 เตียง ที่โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และสามารถรับมือ เพื่อลดการกระจายเชื้อได้อีกในกลุ่มผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยประมาณ 1,600 คน หากเทียบกับจำนวนห้องพักของโรงแรมในจังหวัดเชียงรายที่เวลานี้มีการปิดกิจการชั่วคราว จากสถานการณ์ล่าสุด มีข้อมูลเปิดบ่งชี้ว่า จังหวัดเชียงรายสามารถตรวจหาเชื้อไวรัสได้วันละ 150 – 200 ตัวอย่าง ซึ่งหมายความว่า ต่อให้เชียงรายมีคนไข้เพิ่มจำนวนวันละมากกว่า 100 ราย ระบบสาธารณสุขของเชียงรายก็ยังรับมือไหว ดังนั้นจึงเป็นเวลาที่ต้องเปิดให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตและหาเงินเลี้ยงชีพได้ ทั้งนี้มองว่าหากรัฐบาล จะรอให้ตัวเลขของผู้ป่วยเป็นศูนย์คงต้องใช้เวลานานกว่านี้
“ผมเชื่อว่าประชาชนรู้วิธีการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคและมีระบบเฝ้าระวังในชุมชนที่เข้มแข็ง โดย อสม. เป็นคนทำงานในพื้นที่ประสานกับ รพ.สต. และโรงพยาบาล จะยังทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไม่ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนระบบรับไม่ไหวเหมือนที่เกิดกับหลายประเทศ ที่ผ่านมาประชาชนยอมลำบาก เพื่อช่วยแบกภาระในการป้องกันการติดเชื้อ เพื่อให้ระบบสาธารณสุขและโรงพยาบาลรองรับไหว และมีเวลาปรับตัวเพื่อรับมือกับคนไข้ที่จะมีมากขึ้น ส่วนร้านค้า ร้านอาหาร สถานประกอบการ ก็ต้องมีมาตรการป้องกันโรค เว้นระยะห่างทางสังคม ”นพ.เอกภพ กล่าว
นพ.เอกภพ กล่าวอีกว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่รัฐประกาศมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้คนจำนวนหนึ่งมีความเครียดจากพิษเศรษฐกิจจนทำให้เกิดการคิดสั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งจำนวนการตายสะสมตั้งแต่วันที่ 1- 21 เม.ย. พบว่า มีเท่ากันที่ 38 ราย จากการตายด้วยโควิด 19 ซึ่งอยู่ในทิศทางขาลงสวนทางกับเส้นจำนวนผู้ฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจที่เป็นขาขึ้น ดังนั้นอีกหนึ่งแนวทางที่รัฐบาลควรหารือควบคู่กับมาตรการต่างๆ คือการพูดคุยกับธนาคาร เรื่องการพักหนี้ภาคครัวเรือนและพักหนี้สำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กแบบหยุดทั้งต้นทั้งดอก เพื่อเป็นการต่อลมหายใจของคนที่ลำบากเหล่านั้น.-สำนักข่าวไทย