กทม. 23 เม.ย. – การพัฒนาวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในไทยมีความคืบหน้า สามารถพัฒนาวัคซีนนำไปทดลองในหนูแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจวิเคราะห์ระดับภูมิคุ้มกัน คาดรู้ผลสัปดาห์หน้า หากได้ผลดีจะนำไปทดลองขั้นต่อไป คือ ฉีดทดลองในคน
นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันชีววัตถุ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กำลังตรวจความสมบูรณ์ของเซลล์เพาะเลี้ยง ก่อนจะนำเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาใส่ในเซลล์เพาะเลี้ยงเหล่านี้ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบทดสอบว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่หลายหน่วยงานกำลังวิจัยอยู่ในขณะนี้ได้ผลเป็นอย่างไร
เช่นโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 แบบเทคโนโลยี DNA ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับบริษัทไบโอเนท-เอเชีย ที่นำไปทดลองในหนูแล้ว และเจาะซีรั่มเลือดของหนู ส่งมอบให้สถาบันชีววัตถุ เพื่อตรวจวิเคราะห์ระดับภูมิคุ้มกันในห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับ 3 การวิเคราะห์ต้องใช้เวลา 7 วัน คาดทราบผลภายในสัปดาห์หน้า ก่อนจะพิจารณาว่าสามารถนำไปทดลองในคนต่อได้หรือไม่
ข้อมูลจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้โครงการพัฒนาวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในไทยที่กำลังดำเนินการมีหลายโครงการ เช่น ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และมหาวิทยาลัยมหิดล
ขั้นตอนการวิจัยวัคซีนเริ่มตั้งแต่การเพาะเชื้อ หรือการสังเคราะห์ทางพันธุกรรม, การพัฒนาวัคซีน, ทดลองในสัตว์ เช่น หนู และลิง ก่อนจะพัฒนาเป็นวัคซีนต้นแบบ และผลิตในโรงงานที่ได้รับรอง GMP แล้วนำไปทดลองในคน โดยจะแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 ดูความปลอดภัย
ระยะที่ 2 ดูการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
และระยะที่ 3 ดูผลในการป้องกันโรค
หากได้ผลก็จะเข้าสู่กระบวนการขึ้นทะเบียน ขั้นตอนทั้งหมดคาดว่าจะใช้เวลา 12-18 เดือน แต่ในระหว่างนี้ที่ดำเนินการควบคู่กันคือ การพยายามทำข้อตกลงกับต่างประเทศ เช่น สหรัฐ อังกฤษ จีน ที่มีความก้าวหน้าในการทดลองกับคนแล้ว โดยจะมีงานวิจัยและทำข้อตกลงเบื้องต้นเพื่อขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้ไทยมีโอกาสเข้าถึงวัคซีนได้เร็วที่สุด
มาตรการจัดการกับเชื้อโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ทั่วโลก หลายชาติมีความพยายามพัฒนาวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้เร็วที่สุด เช่น โครงการวิจัยวัคซีนต้านโควิด-19 ของอังกฤษ ที่เริ่มทดลองวัคซีนในคนแล้ว ส่วนในไทย ล่าสุดคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติมีมติจะเดินหน้าพิมพ์เขียวเพื่อการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประชาชนไทย ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน
ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ย้ำว่า แม้ระยะเวลาในการพัฒนาวิจัยวัคซีนโควิด-19 อาจต้องกินเวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง และการระบาดอาจจะสงบลงแล้ว แต่หากไทยสามารถผลิตวัคซีนได้เองเป็นผลสำเร็จ สามารถนำไปใช้กับบุคลากรทางการแพทย์ และคนกลุ่มเสี่ยงได้ นอกจากจะเป็นการควบคุมโรคระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว นี่ยังถือเป็นความมั่นคงด้านวัคซีนของไทยที่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ และไม่ต้องรอพึ่งวัคซีนจากต่างประเทศที่เมื่อผลิตได้แล้ว มักจะไม่ส่งออกมาจำหน่าย จนกว่าประชากรของตัวเองจะได้รับวัคซีนจนครบทุกคน. – สำนักข่าวไทย