กทม. 18 เม.ย. – รมว.เกษตรฯ สั่งด่วนให้กรมชลประทานบรรเทาภัยแล้งในจังหวัดลำปาง ประสานผู้ว่าฯ ออกประกาศห้ามสูบน้ำตลอดริมตลิ่งแม่น้ำวัง
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้อธิบดีกรมชลประทานประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ปรับระบบการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำวัง เนื่องจากขณะนี้ประสบภัยแล้งเป็นวงกว้าง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางออกประกาศจังหวัด เรื่องการบริหารจัดการลุ่มน้ำวังเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ห้ามสูบน้ำในลำน้ำวังตลอดเส้นทางน้ำ ยกเว้นสูบน้ำเพื่อการประปา ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนเป็นต้นไป จนกว่าจะตรวจสอบยืนยันได้ว่าน้ำไหลถึงปลายทางที่ตำบลพระบาทวังตวง อำเภอแม่พริก จึงจะออกประกาศให้สูบน้ำได้ ระหว่างนี้ให้ชลประทานในพื้นที่ปิดประตูน้ำทุกแห่ง
ทั้งนี้ อธิบดีกรมชลประทานรายงานว่า พื้นที่ลุ่มน้ำวังใช้น้ำต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำกิ่วลมและอ่างเก็บน้ำแม่ฟ้า จึงปรับเพิ่มปริมาณการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำวังวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 17-21 เมษายน เพื่อให้น้ำเติมลงเขื่อนสามารถช่วยราษฎรท้ายเขื่อนได้ 30 ตำบลของอำเภอเมืองลำปาง เกาะคา สบปราบ เถิน และแม่พริก ซึ่งฝ่ายปกครองจะร่วมควบคุมดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามประกาศจังหวัดลำปางอย่างเคร่งครัด เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนมีอยู่จำกัด ต้องสำรองน้ำไว้ให้เพียงพอไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้าที่กำลังจะมาถึงประมาณสัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของเดือนพฤษภาคม ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้
“เน้นย้ำในเรื่องของการเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ ทั้งเพื่อป้องกันบรรเทาภัยแล้งและน้ำท่วม ย้ำให้กรมชลประทานจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านน้ำ” นายเฉลิมชัยกล่าว
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประกาศเขตพื้นที่ประสบภัย (ภัยแล้ง) ในพื้นที่ของสำนักงานชลประทานที่ 14 ที่หมู่ 1-12 ตำบลชัยเกษม อำเภอบางสะพาน และหมู่ 9 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยได้เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน สำหรับสำนักงานชลประทานที่ 14 ดูแลจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง ปริมาตรน้ำรวม 446 ล้าน ลบ.ม. ปริมาตรน้ำใช้การได้ 363 ล้าน ลบ.ม. ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 22 แห่ง ปริมาตรน้ำรวม 72 ล้าน ลบ.ม. ปริมาตรน้ำใช้การได้ 24 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 107 แห่ง ปริมาตรน้ำรวม 21 ล้าน ลบ.ม. ปริมาตรน้ำใช้การได้ 21 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับแผนจัดสรรน้ำและเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 2562/2563 มีน้ำทั้งสิ้น 852 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรน้ำแล้ว 621 ล้าน ลบ.ม. หรือ 73% โดยสนับสนุนเพื่ออุปโภคบริโภค 194 ล้าน ลบ.ม. ภาคอุตสาหกรรม 12 ล้าน ลบ.ม. รักษาระบบนิเวศ 140 ล้าน ลบ.ม. และภาคการเกษตร 506 ล้าน ลบ.ม. สำหรับผลการเพาะปลูกข้าวฤดูแล้ง 2562/2563 แผนกำหนดไว้ 140,000 ไร่ เพาะปลูกข้าวไปแล้ว 70,000 ไร่ คิดเป็น 50% ของแผน
นอกจากนี้ได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ รวมทั้งสิ้น 1,120 เที่ยว ปริมาณน้ำ 8,588,000 ลิตร อีกทั้งดำเนินโครงการจ้างแรงงานเกษตรกรให้มาทำงานซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบชลประทาน โดยเป็นไปตามมาตรการของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรฯ เพื่อช่วยเหลือคนที่ขาดรายได้จากภัยแล้ง รวมทั้งมีสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซ้ำเติม ขณะนี้จ้างแรงงานไปแล้ว 1,455 คน จำนวนเงิน 3,701,706 บาท.-สำนักข่าวไทย