กทม. 14 เม.ย. – หลังกรมการแพทย์ออกประกาศแนวทางการรักษาทางทันตกรรมช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รักษาเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ส่งผลให้ร้านทำฟันหลายแห่งหยุดให้บริการ ทันตแพทย์จิตอาสาจึงให้คำปรึกษาเรื่องช่องปากผ่านไลน์ พร้อมคัดกรองคนไข้ฉุกเฉินที่อาจมีความเสี่ยงถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาทันที
แม้จะเปิดช่องทางสื่อสารได้เพียง 4 วัน แต่ไลน์แอคเคาท์ “หมอฟันไทยสู้ภัย COVID” ที่กลุ่มวิชาชีพทันตแพทย์รวมตัวกันพัฒนาขึ้น เพื่อให้ปรึกษาปัญหาทางทันตกรรม แนะนำการบรรเทาอาการเบื้องต้น และแนะนำสถานพยาบาลกรณีคนไข้มีภาวะฉุกเฉินต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน ก็มีคนไข้เข้ามาขอคำปรึกษาแล้วเกือบ 400 คน หลังกรมการแพทย์ออกประกาศแนวทางการรักษาทางทันตกรรมในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้รักษาเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 จากละอองฝอยที่ฟุ้งกระจายขณะทำฟัน
หนึ่งในทีมงานที่พัฒนาระบบ เล่าว่า ขณะนี้มีทันตแพทย์จิตอาสากว่า 400 คน แต่ละวันจะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาให้ทำงานวันละ 12 คน เมื่อผู้ป่วยแอดไลน์เข้ามาเป็นเพื่อนแล้ว จะสามารถถาม-ตอบกับทันตแพทย์ได้โดยตรง ทันตแพทย์จะคัดกรองเบื้องต้นได้ว่าผู้ป่วยคนใดที่รอได้ หรือมีอาการเข้าเกณฑ์ฉุกเฉิน และต้องรักษาทันที เช่น คนไข้มะเร็งตับคนนี้ที่มีอาการปวดฟัน หลังเข้ามาปรึกษา ได้ประสานส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในวันต่อมา
ในช่วงที่เชื้อโควิด-19 ระบาด กรมการแพทย์จะแบ่งการรักษาทางทันตกรรมเป็น 3 ประเภท เช่น ภาวะฉุกเฉินที่ต้องรักษาทันที, ภาวะเร่งด่วนที่ควรได้รับการดูแลทันทีตามวิจารณญาณของทันตแพทย์ และภาวะไม่เร่งด่วนที่สามารถรอได้
อุปนายกทันตแพทยสภาให้เหตุผลว่า ที่ต้องแบ่งการรักษาผู้ป่วยตามอาการแบบนี้ เพราะทรัพยากร เช่น ชุด PPE และหน้ากากอนามัย ที่จะสามารถป้องกันฝอยละออง มีไม่พอสำหรับทุกคน จึงต้องเก็บไว้ให้ผู้ป่วยฉุกเฉินก่อน
ทีมงานหมอฟันไทยสู้ภัย Covid เก็บข้อมูลเบื้องต้นจากการให้คำปรึกษาตลอด 4 วัน พบว่า ผู้ป่วยที่เข้ามาปรึกษาส่วนใหญ่มีอาการปวดฟัน ส่วนผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ฉุกเฉินมีน้อยมากเพียง 2-3 รายเท่านั้น แม้จะมีจำนวนน้อย แต่ก็เป็นกลุ่มที่ต้องรักษาให้รวดเร็วที่สุด เพราะมีความเสี่ยงถึงชีวิต. – สำนักข่าวไทย