10 เม.ย.- วันนี้ต้องถือเป็นวันเลวร้ายอีกวันหนึ่งของมวลมนุษยชาติ เพราะยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกจากโควิด-19 พุ่งเกิน 96,000 คนแล้ว แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้นทั้งในสหรัฐและยุโรป ขณะที่ไอเอ็มเอฟเตือนโควิด-19 อาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลกเมื่อ 91 ปีก่อน
ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกตอนนี้ขยับเข้าใกล้หลักแสนไปทุกขณะ ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่กว่า 96,000 คน ติดเชื้ออีกกว่า 1.6 ล้านคน อย่างไรก็ดี ทั้งสหรัฐและยุโรป โดยเฉพาะที่สเปน และอิตาลี ต่างมียอดผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลลดลง ทำให้มีความหวังว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จะคลี่คลาย
ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เตือนว่า ประเทศสมาชิกไอเอ็มเอฟ 170 ประเทศ จากทั้งหมด 180 ประเทศ จะต้องเผชิญกับรายได้ประชากรต่อหัวลดลงในปีนี้ และอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของโลกเมื่อ 91 ปีก่อน พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ เร่งใช้มาตรการช่วยเหลือธุรกิจและประชาชนในประเทศของตัวเอง
ล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ประกาศให้เงินกู้ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนและธุรกิจของชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ชาวอเมริกันตกงานกันไปแล้วถึง 17 ล้านคน
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐจะทำอย่างเต็มที่ เพื่อเยียวยาสายการบินต่างๆ ของสหรัฐ ที่ต้องหยุดทำการบิน จากการระบาดของโรคโควิด-19
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป หรือ อียู เห็นชอบกับงบประมาณมูลค่า 54,000 ล้านยูโร เพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศสมาชิก 27 ชาติ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอิตาลี และสเปน ที่มีการระบาดหนักสุดในยุโรป
ด้านเลขาธิการสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตียเรส เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแสดงความเป็นหนึ่งในการต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อคนรุ่นหลัง นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ทั่วโลกยุติความขัดแย้งทุกรูปแบบ แล้วหันมามุ่งมั่นกับการต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์ใหม่.-สำนักข่าวไทย