กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – สอน.ใช้ 4 มาตรการ แก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้ จูงใจส่งอ้อยสดเข้าโรงงานเพิ่มตันละ 200 บาท พร้อมตั้งเป้าฤดูการผลิต 63/64 อ้อยไฟไหม้เข้าหีบไม่เกินร้อยละ 20
นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า จากมติคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 มีมติเห็นชอบให้ปรับสัดส่วนการรับอ้อยไฟไหม้แต่ละวันของโรงงานน้ำตาลไม่เกินร้อยละ 50 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมดต่อวัน โดยการหีบอ้อยในฤดูการผลิตปี 2562/2563 ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2563 รวมระยะเวลาเปิดหีบ 116 วัน มีปริมาณอ้อยไฟไหม้ 37,183,474 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 49.65 จากปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งสิ้น 74,893,175 ตัน ถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ที่มีมาอย่างยาวนาน
สำหรับในฤดูการผลิตปี 2563/2564 ได้ตั้งเป้าปริมาณอ้อยไฟไหม้จะต้องลดลงเหลือร้อยละ 20 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 และข้อร้องเรียนจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอ้อยไฟไหม้ โดยใช้แนวทางการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ และยังตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ซึ่ง สำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เสนอดำเนินการ 4 มาตรการ ประกอบด้วย
1.กำหนดราคาส่วนต่างให้ราคาอ้อยสดมากกว่าอ้อยไฟไหม้ตันละประมาณ 200 บาท ให้มีความคุ้มค่ามากพอและเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดมากขึ้น 2. จัดหาเครื่องมือเพื่ออำนวยความสะดวกให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดมากขึ้น โดยใช้งบประมาณกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เช่น การจัดหาเครื่องสางใบอ้อยให้สมาชิกกลุ่มการเรียนรู้เพื่อพัฒนาด้านอ้อย ที่ปัจจุบันมีอยู่ 280 กลุ่ม เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยมีการรวมกลุ่มและพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการอ้อยสด 3. ในกรณีที่มีนโยบายให้การช่วยเหลือหรือสนับสนุนจากภาครัฐจะให้สิทธิเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดเท่านั้น และ 4. ออกมาตรการทางกฎหมายเพื่อให้โรงงานมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาไม่ให้ปริมาณอ้อยไฟไหม้เกินกว่าร้อยละ 20 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย