กรุงเทพฯ 2 มี.ค.-กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานกระทรวงอุตสาหกรรมตรวจเข้มพื้นที่ปลูกอ้อยโดยเฉพาะ 6 จังหวัดที่มีไฟไหม้ซ้ำซาก ย้ำทางจังหวัดให้ยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 จากอ้อยไฟไหม้อย่างเข้มงวด
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แจ้งไปยังจังหวัดที่มีไฟไหม้ซ้ำซากในพื้นที่ปลูกอ้อย เพื่อให้ทางจังหวัดยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 จากอ้อยไฟไหม้อย่างเข้มงวด ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ตรวจพบพื้นที่ปลูกอ้อยที่มีไฟไหม้ซ้ำซากยังคงมีอยู่ในบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดชัยภูมิกับนครราชสีมาและบริเวณรอยต่อจังหวัดขอนแก่น อุดรธานี กาฬสินธ์ และมหาสารคาม
ทั้งนี้คาดการณ์ว่า ในปีนี้ผลผลิตอ้อยทั่วประเทศจะเพิ่มขึ้น มีพื้นที่เพาะปลูกอ้อยประมาณ 12 ล้านไร่ และมีจำนวนอ้อยเข้าหีบจำนวนประมาณ 74 ล้านตัน ประมาณการว่า จะมีอ้อยไฟไหม้เข้าหีบในสัดส่วนร้อยละ 30 ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2564-2566 พบจุดความร้อนในพื้นที่ปลูกอ้อย ประมาณร้อยละ 3-4 ของพื้นที่เพาะปลูกอ้อยทั้งหมดทั่วประเทศ ทำให้การดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ ยังไม่เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ซึ่งกำหนดให้ปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบในฤดูการผลิตปี 2565/2566 ไม่เกินร้อยละ 5 และในฤดูการผลิตปี 2566/2567 ปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบต้องเป็น 0 ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ล่าสุดหารือกับนายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนเลขาธิการสอน. ถึงแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามมติครม. และยกระดับมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จากอ้อยไฟไหม้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
หลังจากนี้จะร่วมทำงานอย่างใกล้ชิด โดยมีแผนจะร่วมกันจัดทำ After Action Review และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อยกระดับมาตรการระยะยาวสำหรับเตรียมฤดูกาลเปิดหีบในปีถัดไป โดยจะมีมาตรการที่สำคัญได้แก่มาตรการส่งเสริมช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยด้วยเทคโนโลยีและ องค์ความรู้ทางวิชาการ ควบคู่ไปกับมาตรการด้านบังคับใช้กฏหมายตามพระราชบัญญัติโรงงาน พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข.-สำนักข่าวไทย