สธ.31 มี.ค.-เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ ร้องกรมอนามัย จัดระเบียบตลาดลดเสี่ยงโควิด-19 วอนติดตั้งอ่างล้างมือแบบเท้าเหยียบ หลังสำรวจพบ เกือบทุกตลาดมีปัญหาการล้างมือ ไม่เว้นระยะห่าง บางส่วนไม่ใส่หน้ากาก และขาดการประชาสัมพันธ์
วันนี้ (31มี.ค.) ที่กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง พร้อมด้วย นายชูวิทย์ จันทรส เลขานุการขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และอดีตเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก จำนวน 10 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ในฐานะกำกับดูแลเรื่องสุขาภิบาลอาหารในตลาดทั้งประเทศ เพื่อเรียกร้องให้เร่งออกมาตรการ จัดระเบียบ ตลาดสด ตลาดนัด ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อไวรัส โควิด-19 และเครือข่ายฯยังได้นำอ่างล้างมือพึ่งเท้า (ใช้เท้าเหยียบเปิดปิดน้ำ) มาสาธิตเพื่อผลักดันให้ทุกตลาดติดตั้งอำนวยความสะดวกในการล้างมือทั้งก่อนและหลังเข้าตลาด
นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สถานที่หลายแห่งถูกสั่งปิดชั่วคราว ยกเว้นบางสถานที่ที่ยังจำเป็น เช่น ตลาดนัด ตลาดสด ที่เป็นแหล่งอาหารการกินสำคัญของประชาชน ดังนั้น กรมอนามัย ควรต้องเร่งจัดระเบียบเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อเนื่องจากครือข่ายได้สุ่มสำรวจตลาดสดในกรุงเทพฯและปริมณฑลระหว่างวันที่24-25 มี.ค.กว่า13 แห่ง พบว่ามีเพียง2ตลาดจาก 13ตลาด ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์โควิด-19 และจัดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้ลูกค้าโดยเจ้าของตลาด ส่วนใหญ่เจลแอลกอฮอล์ล้างมือบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจะเป็นผู้จัดหาให้ลูกค้า แต่มีในจำนวนน้อยมากและยังพบอีก3ตลาดจาก13 ตลาด ที่มีอ่างน้ำล้างมือ และสบู่จัดไว้เป็นการเฉพาะเพียงหนึ่งจุดแต่ยังเป็นระบบมือเปิดปิดอยู่ ตลาดที่เหลือต้องจ่ายเงินเข้าห้องน้ำเพื่อไปล้างมือ ซึ่งเป็นระบบสัมผัสเปิดปิดปกติทั่วไป อีกทั้งตลาดทุกแห่งยังสามารถเข้าออกได้หลายทางไม่จำกัด และยังไม่มีการรักษาระยะห่างระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ เป็นไปตามธรรมชาติมาก
“จากการลงพื้นที่พบการใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าของผู้ซื้อร้อยละ75.9 ผู้ขายร้อยละ 82.3 เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากส่วนใหญ่เป็นลูกจ้าง แรงงานต่างด้าวในร้าน คนเข็นผัก คนส่งของ ที่น่าห่วงคือ ผู้ขายจำนวนหนึ่งนำลูกหลานที่อายุยังน้อย มาดูแลอยู่ในร้านค้าด้วย ซึ่งอาจจะเป็นด้วยข้อจำกัดในการเลี้ยงดู เราขอยืนยันว่าผลสำรวจครั้งนี้มิได้มีเจตนาทำให้ตลาดสด ตลาดนัดดูไม่ดีหรือแย่ลง แต่ตรงกันข้ามมีเจตนาในการปกป้องรักษาไว้ซึ่งตลาดสด ตลาดนัด ไว้เป็นแหล่งอาหารการกินสำคัญของประชาชนทุกกลุ่ม จึงจำเป็นต้องช่วยกันทำทุกวิถีทางเพื่อการดำรงอยู่ของตลาดเอาไว้ มิให้กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาด ”นายชูวิทย์ กล่าว
นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า เพื่อป้องกันและแก้ไขสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เครือข่ายขอแสดงจุดยืนและข้อเสนอต่อกรมอนามัย ดังนี้ 1. ขอให้กำลังใจการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข บุคลากรการแพทย์ หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครสาธารณสุข และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการต่อสู้ฝ่าฟันกับวิกฤตนี้
2.ออกข้อกำหนดให้ทุกตลาดดำเนินการ ดังนี้
2.1มีมาตรการเด็ดขาด บังคับใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทั้งผู้ขายผู้ซื้อ พ่อค้าแม่ค้า
2.2 กำหนดระยะห่างระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ ให้มากกว่า 1 เมตร และควรออกแบบการซื้อขายที่ลดการสัมผัสระหว่างกัน
2.3 จัดจุดล้างมือน้ำ สบู่ แบบไม่สัมผัส หรือจุดติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ไว้บริการล้างมือก่อนและหลังเข้าตลาด
2.4 ประชาสัมพันธ์ สปอตเสียงตามสาย รณรงค์ขอความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง
2.5 กำหนดทางเข้าออกให้ชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม ดูแล
2.6 พ่อค้าแม่ค้าควรหลีกเลี่ยงการนำเด็กเล็ก ลูกหลานอายุน้อยๆมาที่ร้านค้า หากมีความจำเป็น เด็กๆต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
2.7 ให้ทำความสะอาดร้านค้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวันมีการทำบิ๊กคลีนนิ่งตลาดทุกสัปดาห์
และ3.เครือข่ายฯ ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ ยินดีร่วมมือกับกรมอนามัย และตลาดสด ตลาดนัด ให้มีความปลอดภัย ถูกสุขอนามัยและช่วยสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ข้อมูล แนวปฏิบัติที่ถูกต้อง รับมือสู้กับวิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้ไปด้วยกัน
“ขณะนี้เราได้ประสานกับศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน(ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ซึ่งมีเยาวชนอยู่ที่นี่ร้อยกว่าคน ในการช่วยกันผลิตอ่างล้างมือพึ่งเท้า เพื่อสนับสนุนไปยังตลาดสดตลาดนัดที่สนใจจัดระเบียบ โดยสามารถประสานงานไปทางเพจเฟซบุ๊ก ขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน หรือ เฟซบุ๊กเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่” นายณัฐพงศ์ กล่าว
ขณะที่ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวหลังรับเรื่องว่า ต้องขอบคุณเครือข่ายที่มายื่นข้อเสนอวันนี้ ทางกรมจะนำไปพิจารณา พร้อมเร่งทำความเข้าใจและแนะนำไปที่ตลาด ทั้งเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย การมีจุดล้างมือที่ตลาดสามารถทำขึ้นมาใช้งานได้เอง และเร่งให้ความรู้คำแนะนำแก่ผู้ค้าผู้ขาย ให้ปฏิบัติอย่างเป็นมาตรฐาน ถูกสุขอนามัย เพื่อให้ผู้ซื้อได้เกิดความมั่นใจต่อไป .-สำนักข่าวไทย