อิตาลี 20 มี.ค.- สำนักข่าวไทย มีโอกาสพูดคุยกับคนไทยที่อาศัยอยู่ในอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากรองจากประเทศจีน อย่างวันนี้พบผู้เสียชีวิตเกือบ 500 คน ขณะที่คนไทยซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่นกว่า 400 คน ประสงค์อยากกลับเมืองไทย เพราะกลัวติดเชื้อ หลังพบว่าเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ จนต้องเลือกรักษาเฉพาะผู้ที่มีโอกาสรอดเท่านั้น
การเล่นเปียโนคือกิจกรรมที่ครอบครัวคนไทย ที่อยู่ในเมืองเซอร์เวีย ทางเหนือของอิตาลี ทำระหว่างอยู่แต่ในบ้าน หลังรัฐบาลของอิตาลีประกาศขอให้งดเดินทางถ้าไม่จำเป็น ระหว่างที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอิตาลีกำลังเลวร้าย พบผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตทุกวัน
ชาวไทยในอิตาลีเล่าว่า เฉพาะเมืองเมืองเซอร์เวีย มีผู้ติดเชื้อ 13 คน เสียชีวิตไปแล้ว 1 คน รัฐบาลสั่งหยุดทุกกิจกรรม ประชาชนต้องอยู่แต่ในบ้าน จนบรรยากาศของเมืองเงียบเหงา จะออกจากบ้านเฉพาะมีเหตุจำเป็น เช่น ไปซื้ออาหาร และต้องป้องกันตัวเองให้มากที่สุด ทั้งใส่ถุงมือ และหน้ากากอนามัย เพราะขณะนี้ระบบสาธารณสุขของอิตาลีรับผู้ป่วยไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะผู้ป่วยหนัก ที่แพทย์ต้องเลือกรักษาผู้ป่วยที่มีอายุไม่เยอะเท่านั้น
ตอนนี้เรียกว่า “วิกฤติ” เพราะว่าระบบโรงพยาบาลรักษาเฉพาะผู้ที่มีโอกาสหายเท่านั้น คือ ถ้าไม่รอดก็ต้องให้เขาช่วยเหลือตัวเอง เตียงไม่พอ แพทย์ พยาบาลขาดแคลนอีก 2,000 ตำแหน่ง หน่วยรักษาคน แม้กระทั่งหน้ากาก เจล ถุงมือ ก็หาไม่ได้
ส่วนเธอคนนี้อาศัยอยู่ที่เมืองแบร์กาโม ทางเหนือของอิตาลี ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการระบาดของเชื้อโควิด-19 เแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดในเมืองจะขยายวงกว้าง แต่เธอและสามีก็ยังต้องออกไปทำงานทุกวัน
เธอยอมรับว่า กังวลมาก เพราะทำงานในศูนย์การค้า ต้องพบเจอคนมาก อีกทั้งลูกอายุยังน้อย กลัวว่าตัวเองจะเป็นพาหะนำเชื้อมาติดลูก จึงกำลังยื่นเรื่องขอหยุดงาน และติดต่อสถานทูตไทยในอิตาลีให้ช่วยเหลือ เพื่อกลับไทย
มีข้อมูลว่า ปัจจุบันมีคนไทยอาศัยอยู่ในอิตาลีประมาณ 7,000 คน และขณะนี้พบคนไทยติดเชื้อโควิด-19 ในอิตาลี แล้ว 4 คน โดยคนไทยในอิตาลีเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้เชื้อนี้แพร่กระจายในอิตาลีอย่างรวดเร็ว และรุนแรง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชาวเมืองชอบสังสรรค์ วัฒนธรรมการทักทายที่นิยมการกอด การหอมแก้ม และไม่ชอบใส่หน้ากากอนามัย ก็เป็นอีกตัวเร่งที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง รองจากจีน.-สำนักข่าวไทย