กทม 19 มี.ค.- วันที่ 19 มีนาคม 2563 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นายประเทศ ศรีชมภู รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ร่วมกับ นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ในฐานะโฆษก MEA แถลงข่าวเรื่อง หลักเกณฑ์การคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก ณ สำนักงานคณะกรรมการกิจการพลังงาน อาคารจัตุรัสจามจุรี ถนนพญาไท
ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคพื้นฐานสำหรับประชาชน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น MEA ได้บูรณาการร่วมกับ กกพ. PEA และกิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ กำหนดหลักเกณฑ์มาตรการคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 (บ้านอยู่อาศัย) และประเภทที่ 2 (ธุรกิจขนาดเล็ก) สามารถขอรับคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าที่วางไว้ตามขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าหรือตามจำนวนเงินที่วางไว้กับ MEA โดยการลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์ขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ ที่สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทาง พร้อมต้องเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ในการลงทะเบียนประกอบด้วย
1. ชื่อ – นามสกุล เจ้าของหลักประกันการใช้ไฟฟ้า
2. หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เจ้าของหลักประกันการใช้ไฟฟ้า
3. รหัสบัญชีแสดงสัญญา (หมายเลข CA) ซึ่งระบุอยู่ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าหรือใบเสร็จรับเงิน รวมถึงแอปพลิเคชัน MEA Smart life ในฟังก์ชันชำระค่าไฟฟ้า
ในด้านช่องทางการลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์ขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า ประกอบด้วย 3 ช่องทาง คือ
1. ลงทะเบียนทางออนไลน์ (เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ตลอด 24 ชั่วโมง)
▪ แอปพลิเคชัน : MEA Smart Life
▪ เว็ปไซต์ : www.mea.or.th
▪ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA
▪ Twitter : @mea_news
▪ Line : @meathailand
▪ สแกน QR Code ในใบแจ้งค่าไฟฟ้า (ใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่จดเลขอ่านตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป)
สำหรับผู้ลงทะเบียนช่องทางออนไลน์ เมื่อ MEA ตรวจสอบสิทธิแล้วพบว่าเจ้าของหลักประกันมีชื่อตรงกับฐานข้อมูลของผู้วางหลักประกันประเภทเงินสด เจ้าของหลักประกันจะได้รับเงินประกันคืนผ่านช่องทางที่ได้ระบุไว้ในการลงทะเบียนออนไลน์ โดยไม่ต้องแสดงเอกสารเพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
2. ลงทะเบียนทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 0 2256 3333 จำนวน 50 คู่สาย
(ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 – 29 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.00 –15.30 น. ในวันทำการ)
3. ลงทะเบียน ณ ที่ทำการของการไฟฟ้านครหลวง 18 เขต
(เฉพาะผู้ขอคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินสด รวมถึงผู้ขอคืนเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้าประเภทเงินสดที่ติดปัญหา เช่น การโอนสิทธิ เปลี่ยนชื่อนามสกุล เสียชีวิต ฯลฯ สามารถใช้ช่องทางนี้ได้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563)
ในการลงทะเบียนดังกล่าว ผู้ขอคืนหลักประกันสามารถเลือกช่องทางการคืนเงินได้ 3 ช่องทาง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใด ๆ ดังนี้
ช่องทางที่ 1 บัญชีพร้อมเพย์ (Prompt Pay) เฉพาะที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ของผู้วางหลักประกัน
ช่องทางที่ 2 บัญชีธนาคารพาณิชย์ที่มีชื่อตรงกับผู้วางหลักประกันที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทย
ช่องทางที่ 3 เคาน์เตอร์เซอร์วิส (จำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาท)
ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 MEA จึงแนะนำให้ผู้ขอคืนหลักประกันเลือกลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะทำให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว พร้อมทั้งยังเป็นช่องทางที่เปิดให้สามารถลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิและแจ้งความประสงค์ได้โดยไม่มีกำหนดวันปิดลงทะเบียน
ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line: @meathailand, Twitter: @mea_news, และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง