กระทรวงคลัง 4 มี.ค. – คลังเตรียมเสนอ ครม.เศรษฐกิจ ศุกร์นี้ พิจารณา มาตรการเยียวยา ลดผลกระทบแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ครอบคลุมทุกกลุ่มกว่าแสนล้านบาท ทั้งสินเชื่อผ่อนปรนเพิ่มแหล่งทุนผู้ประกอบการ โอนเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านพร้อมเพย์ แก้ไขกองทุน SSF คล้าย LTF เป็นการชั่วคราวหวังดูแลตลาดหุ้น คาด ธปท.ดูแลดอกเบี้ยประคองเศรษฐกิจ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันศุกร์นี้ ( 6 มี.ค.) พิจารณาชุดมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ ไวรัส COVID-19 ภายใต้ชื่อ “ดูแลและเยี่ยวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ชุดที่ 1” มาตรการชุดแรก คาดว่า ใช้วงเงินกว่าแสนล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่ม ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ เพื่อเน้นให้เกิดผลในการช่วยเหลือทันทีในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ทั้งผู้ประกอบการ ภาคการท่องเที่ยว เอสเอ็มอี คนระดับกลาง ผู้มีรายได้น้อย การช่วยเหลือครั้งนี้ไม่เป็นห่วงฝ่ายค้านโจมตี เพราะเป็นวิกฤติของหลายประเทศทั่วโลก เหมือนกับช่วงเผชิญเหตุการณ์สึนามิในภาคใต้หลายสิบปีที่ผ่านมา ยืนยันไม่กระทบต่อวินัยการเงิน การคลัง แต่เพื่อต้องการให้ทุกกลุ่มอยู่รอด
สำหรับชุดมาตรการครั้งนี้ กำหนดเป็นมาตรการชั่วคราวให้มีผลทันทีในช่วงระยะ 3-4 เดือนข้างหน้า หลังได้หารืออย่างใกล้ชิดกับทุกฝ่าย ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ในส่วนของผู้มีรายได้น้อย เตรียมเสนอการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ เพื่อลดภาระค่าครองชีพ ครอบคลุม ประชาชนผู้มีรายได้น้อย กลุ่มอาชีพอิสระ และภาคเกษตร อาจจ่ายเงินเป็นรายเดือนระยะหนึ่ง เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนในเร็วๆนี้ เพื่อต้องการทราบรายละเอียดของบุคคล ขณะนี้มีข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่เข้าข่ายจากกองทุน กอช. และกองทุน สปสช.บ้างแล้ว รวมทั้งการลดภาระค่าครองชีพค่าน้ำไฟฟ้า ประปา เหมือนที่เคยช่วยเหลือครั้งที่ผ่านมา ส่วนจ่ายเงินเท่าไรให้รอ ครม.เศรษฐกิจพิจารณา
สำหรับการช่วยเหลือคนมีรายได้ระดับกลาง ช่วยเหลือภาระหนี้บัตรเครดิต เช่น ธ.ออมสินเปิด รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตจากสถาบันการเงินอื่นหลายใบ ดอกเบี้ยต่ำ 8.5% ต่อปี ฟรีค่าธรรมเนียมใช้วงเงินบัตร 4 ปี ชำระขั้นต่ำแค่ 2.5% ธนาคารออมสิน บรรเทาผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้ถือบัตรเครดิต เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เปิดรับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต วงเงิน 10,000 – 100,000 บาท ชำระต่ำสุด 2.5% ของวงเงินอนุมัติ ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีค่าธรรมเนียมใช้วงเงินตลอดการผ่อนชำระ คิดดอกเบี้ยต่ำสุด 8.5% ต่อปี เริ่มแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ด้านการช่วยเหลือผู้ประกอบการ หลังจาก ธปท. ประกาศผ่อนคลายกฎเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ เพิ่มแหล่งทุนให้ผู้ประกอบการ โดยมีแบงก์รัฐ ธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมโครงการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ และนำไปปล่อยกู้ต่อกับประชาชนและผู้ประกอบการ เป็นการปล่อยกู้ช่วยเหลือเหมือนกับเหตุการณ์สึนามิภาคใต้ ส่วนผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว ใช้นโยบายจูงใจภาษีดูแลเอกชน เช่น เมื่อนักท่องเที่ยวลดลง ไม่ออร์เดอร์เข้ามา นำเงินเดือน ค่าจ้าง ไม่รวมเงิน OTหักค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 1 เท่า และมีกองทุนตั้งขึ้นมาใหม่เข้ามาช่วยดูแลเพิ่มเติม
สำหรับกลุ่มพนักงานด้านท่องเที่ยวที่ไม่มีงานทำช่วงนี้ กระทรวงอุดมศึกษาฯ (อว.) พร้อมร่วมมือกับการท่องเที่ยวฯ มหาวิยาลัย สถาบันการศึกษา จัดสรรงบประมาณเพื่อฝึกอบรม เติมความรู้ให้บุคลากรด้านการท่องเที่ยว ด้วยการจัดอบรมสัมมนาตามโรงแรม รีสอร์ท เพื่อเติมสภาคคล่องอีกทางหนึ่ง
ส่วนการช่วยเหลือ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับ ตลาดทุน กระทรวงการคลัง เตรียมผ่อนปรนเงื่อนไขการจำหน่ายกองทุนเพื่อการออมระยะยาว (SSF) ให้มีลักษณะคล้ายกับกองทุน LTF เป็นการชั่วคราว เพื่อดูแลตลาดทุน และสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน หลังได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ยังมีปัญหาแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในส่วนของด้านการส่งออก มองว่าเป็นโอกาสอีกด้านสำหรับการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ เพราะสินค้าหลายรายการยังไปได้ดีในบางอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์กำลังออกแรงเพื่อชดเชยตลาดจีนหดหายไป หลังจาก เฟด ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยมีผลต่อแนวโน้มตลาดโลก คาดว่า ธปท. จะพิจารณาดอกเบี้ยระยะสั้นสอดคล้องกับตลาดโลกเพื่อพยุงเศรษฐกิจไทย
ในส่วนของ ชุดมาตรการครั้งต่อไป เสนอมาตรการการดูแลผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการ ซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่ง ในการดูแลกำลังซื้อของประชาชน รวมทั้ง โครงการชิมช้อปใช้เฟส 4 ในการส่งเสริมประชาชนออกไปท่องเที่ยว จะเป็นอีกมาตรการที่นำออกมาช่วยเหลือในภายหลังเพิ่มเติม . – สำนักข่าวไทย