กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – กรมส่งเสริมการเกษตรเตือนเกษตรกรและพ่อค้า อย่าขายทุเรียนอ่อนผิดกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่ทุเรียนเริ่มให้ผลผลิตออกสู่ตลาด โดยเฉพาะราคาขายทุเรียนจังหวัดจันทบุรีกิโลกรัมละ 120 – 150 บาท และยังมียอดสั่งซื้อล่วงหน้าผ่านพ่อค้าคนกลางจนถึงช่วงปลายเดือนเมษายน ถือเป็นโอกาสดีของเกษตรกรที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น เพียงแต่ต้องรักษาคุณภาพให้ได้ตามที่ตลาดต้องการ ไม่ตัดทุเรียนอ่อนขายด้วยแรงจูงใจจากราคาที่สูง เพราะเป็นช่วงต้นฤดูกาล นอกจากนี้ พ่อค้าที่รับทุเรียนอ่อนมาจำหน่ายก็มีความผิดเช่นกัน เข้าข่ายหลอกลวง มีโทษปรับและจำ
สำหรับผลเสียหายที่เกิดจากการขายทุเรียนอ่อนจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดส่งออก เนื่องจากอีกไม่กี่ปีข้างหน้าประเทศคู่แข่งของไทย ได้แก่ เวียดนามและกัมพูชาผลิตทุเรียนคุณภาพมากขึ้น อีกทั้งอยู่ใกล้กับประเทศจีนที่เป็นตลาดส่งออกใหญ่ของไทย หากไทยยังตัดทุเรียนอ่อนส่งขายจะทำให้ตลาดส่งออกจะลดลงแน่นอน
นอกจากนี้ การตัดทุเรียนอ่อนช่วงต้นฤดูยังเกิดจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานและเกษตรกรเจ้าของสวนต้องการความสะดวก จึงจำหน่ายลักษณะเหมาสวน เกษตรกรไม่ได้ควบคุมการเก็บเกี่ยว รวมถึงเป็นกลยุทธ์ของพ่อค้าที่จะตัดทุเรียนอ่อนไปจำหน่าย เพื่อทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการน้อยลงระยะหนึ่ง จากนั้นทุเรียนจะมีราคาลดต่ำลงแล้วพ่อค้าก็กลับไปกดราคาจากชาวสวนหรือเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมาก
นายเข้มแข็ง กล่าวว่า ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อช่วยกันสกัดกั้นทุเรียนอ่อนในจังหวัดแหล่งผลิตที่สำคัญ โดยใช้บทลงโทษทางกฎหมาย ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 ผู้ใดขายโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพคุณภาพ หรือปริมาณแห่งของอันเป็นเท็จนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47 ผู้ใดเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่น อันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ผู้บริโภคที่จะซื้อทุเรียน มีข้อสังเกตง่าย ๆ คือ หากร่องยังมีสีเขียวและชิดกันแสดงว่ายังไม่แก่ แต่ถ้าร่องเริ่มห่างกันและมีสีน้ำตาลแสดงว่าแก่แล้ว หรือใช้ไม้เคาะแล้วฟังเสียง หากได้ยินเสียงโปร่งไม่แน่นทึบแสดงว่า แก่แล้ว เช่นกัน” นายเข้มแข็ง กล่าว.-สำนักข่าวไทย