กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนว่า ถูกแอบอ้างชื่อเป็นผู้จำหน่ายมูลไก่แก่สำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ จนมีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังตั้งแต่ปี 2560 ล่าสุดป.ป.ช. ภาค 4 เข้าตรวจสอบแล้ว
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงกรณีที่นางสาวนิมิต ตราชู ร้องเรียนว่า ถูกสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาเมืองขอนแก่นแจ้งให้ชำระภาษีส่วนบุคคลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2560 เป็นเงินกว่า 600,000 บาท โดยระบุว่า นางสาวนิมิตขายมูลไก่ให้แก่สำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ในโครงการเกษตรประชารัฐ (9101) ซึ่งมีการจ่ายเงินจากหน่วยราชการในชื่อนางสาวนิมิตเป็นเงิน 6,173,000 บาท ทั้งนี้นางสาวนิมิตกล่าวว่า ไม่เคยทำธุรกรรมดังกล่าวกับหน่วยงานราชการและไม่เคยได้รับเงินจากขายมูลไก่แต่อย่างใด เมื่อตรวจสอบจากสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องมีทั้งที่เกษียณอายุราชการและย้ายไปทำงานที่อื่นแล้ว คาดว่า มีการนำชื่อไปใช้ในโครงการเกษตรประชารัฐ
นางสาวนิภาภัทร เวียงวะลัย เกษตรอำเภอยางตลาด กล่าวว่า นายธีระศักดิ์ ยมสวัสดิ์ เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ให้สำนักงานเกษตรอำเภอยางตลาดซึ่งเป็นพื้นที่ที่ระบุว่า ซื้อขายมูลไก่ในโครงการนี้เร่งรวบรวมเอกสารเพื่อรายงานข้อเท็จจริง ซึ่งนางสาวนิภาภัทรระบุว่า ตามระเบียบนั้น หลังสิ้นสุดโครงการ แต่ละกลุ่มต้องจัดทำเอกสารโครงการไว้ 3 ชุดโดยเก็บไว้ที่กลุ่ม 1 ชุด เก็บไว้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ 1 ชุด และเก็บไว้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด 1 ชุด ที่รวบรวมล่าช้าเนื่องจากเป็นโครงการที่ดำเนินงานเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วซึ่งประธานกลุ่มหรือผู้ที่รับผิดชอบเอกสารบางคนเสียชีวิตและย้ายจากพื้นที่ ส่วนข้าราชการก็เกษียณอายุและย้ายไปที่อื่นเช่นกัน จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลทุกตำบลรวบรวมเอกสารจากกลุ่มต่างๆ ให้เร็วที่สุด ขณะนี้รวบรวมเอกสารได้แล้วประมาณร้อยละ 80 ซึ่งได้นำส่งสำนักงานเกษตรจังหวัดแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอยางตลาดทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือ หากจะมีการตรวจสอบ
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สั่งการให้เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานมายังกรมโดยด่วน นอกจากนี้นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ย้ำให้ตรวจสอบข้อร้องเรียนและทำให้เกิดความกระจ่างเร็วที่สุด
ทั้งนี้นางสาวนิมิตได้นำหลักฐานเข้าร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ภาค 4 แล้ว โดยมีโดยมีนายประทีป จูฑะศร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.ภาค 4 รับเอกสารหลักฐานไว้เพื่อตรวจสอบ โดยนางสาวนิมิตระบุว่า ไม่พบเอกสารการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่มีเอกสารการเบิกจ่ายจากสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์จึงมาร้องต่อป.ป.ช. ภาค 4 เนื่องจากไม่ได้หลีกเลี่ยงภาษีตามที่สรรพากรแจ้งมา อีกทั้งต้องการให้ขยายผลการจัดซื้อจัดจ้างที่มูลค่าเกินจริงเพราะจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การซื้อขายมูลสัตว์นั้นอยู่ที่ประมาณกันหลักแสนบาท แต่กลับมีชื่อนางสาวนิมิตขายมูลไก่ให้หน่วยราชการถึงหลักล้านบาท . – สำนักข่าวไทย