ตม.สนามบินเข้มคัดกรองแรงงานไทยหนี”โควิด-19″กลับไทย

กรุงเทพฯ 2 มี.ค.- ตม.สนามบิน เข้มมาตรการคัดกรองแรงงานไทยหนีตาย”โควิด-19”จากเกาหลีเข้าไทย


ตามที่ปรากฏข่าว คนไทยซึ่งไปทำงานที่เกาหลี พากันไปรายงานตัวกับ ตม.เกาหลีจำนวนมาก เพื่อให้มีการส่งกลับไทย ตามสื่อโซเชียล และ สื่อมวลชนทั่วไปนั้น 

พ.ต อ.เชิงรณ ริมผดี รองโษษก สตม.เปิดเผยว่า พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ได้เรียกประชุมทางไกลผ่านจอภาพ conference กับหัวหน้าด่าน ตม.สนามบินในสังกัด ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ พร้อม นพ.โรม บัวทอง นายแพทย์เชี่ยวชาญ กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ประจำท่าอากาศยาน กำหนดมาตรการรองรับการปฏิบัติ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง.ผบช.สตม.ได้มีความห่วงใยและสั่งกำชับการปฏิบัติโดยให้บูรณาการกับหน่วยที่เกี่ยวข้องให้เป็นรูปธรรม


โดยมาตรการสำคัญ ที่จะรองรับคนไทยที่จะอยู่ในสถานะถูกส่งกลับจากเกาหลี ซึ่งในสถานการณ์ปกติจะมีการส่งกลับทางสุวรรณภูมิราว 50 คนต่อวัน และ ดอนเมืองราว 20 คนต่อวัน 

ในกรณีนี้ ทาง ตม.ได้ประสานสายการบินที่รับตัวคนไทยกลับ ให้จัดโซนที่นั่งเฉพาะแก่กลุ่มผู้โดยสารดังกล่าว และรวมพาสปอร์ตไว้ เมื่อมาถึงท่าอาศยานดอนเมือง หรือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทาง ตม.จะร่วมปฏิบัติกับ จนท.ควบคุมโรค เพื่อทำการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนก่อนเข้าอาคาร ทันทีที่ลงจากเครื่อง หากพบว่ามีอาการไข้ ก็จะคัดแยกตัวเข้าสู่การกักตัวรักษาอาการที่ รพ.ในเครือข่ายควบคุมโรค เพื่อเฝ้าดูและรักษาอาการต่อไป 

ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการ จะเข้าสู่กระบวนการจัดทำประวัติโดยละเอียด ก่อนให้เดินทางกลับที่พักที่แจ้งไว้ โดยให้กักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน พร้อมแจกคำแนะนำเพื่อสังเกตุอาการตัวเอง พร้อมเบอร์โทรสายด่วนควบคุมโรค 1422 เพื่อแจ้งทันทีที่สงสัยว่ามีอาการ โดยทางกรมควบคุมโรคยัง จัด จนท.เข้าติดตามอาการ คนไทยที่ถูกส่งกลับจากเกาหลี ที่ที่พักที่แจ้งอีกส่วนหนึ่งด้วย 


ที่ผ่านมา ทาง จนท.ตม.สนามบินได้ให้ความสำคัญต่อการให้ความร่วมมือกับหน่วยที่เกี่ยวข้องในการสกัด คัดกรอง ระวังการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และขอความร่วมมือผู้เดินทางชาวต่างชาติ ในการเข้มงวดกับการกรอกข้อมูลที่พักตามแบบ immigration card โดยละเอียด เพื่อสะดวกต่อการติดตามตัวภายหลัง รวมถึงการประสานสายการบินรายงานข้อมูล seat ที่นั่งบนเครื่อง เพื่อตรวจสอบหากมีกรณี พบผู้มีอาการ ที่เดินทางมากับสานการบินต่างๆด้วย นอกจากนั้น พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ และ พล.ต.ต.วีรพลฯ ยังกำชับ จนท.ในการเฝ้าระวังตนเอง และ การฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดเคาท์เตอร์ อุปกรณ์ เครื่องมือตรวจคนเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งงดลาไปต่างประเทศที่อยู่ในรายชื่อประเทศเสี่ยงด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง