29 ก.พ. – ประกาศให้ “โควิด 19″ เป็นโรคติดต่ออันตราย มีผลบังคับใช้วันพรุ่งนี้ ขณะที่สถานการณ์ในไทย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย เป็นพนักงานขายเพศชาย ที่สัมผัสใกล้ชิดกับชาวต่างชาติ ทำให้ตอนนี้มีผู้ป่วยสะสมรวม 42 คน
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง “ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2563″ ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยที่เป็นการสมควรให้มีการประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID) เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย ทั้งนี้ ได้ประกาศให้บังคับใช้ตั้งแต่วันถัดไปจากวันประกาศในราชกิจจานุกเบกษาเป็นต้นไป
เท่ากับว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) ผู้ปกปิดประวัติที่จำเป็นในการสอบสวนโรค จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยมีสาระสำคัญ ระบุว่า ประชาชน ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล หรือผู้ควบคุมสถานประกอบการ หรือสถานที่อื่นใด เช่น โรงแรม ต้องแจ้งข้อมูลเมื่อพบมีผู้ต้องสงสัยหรือผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่ออันตราย ฝ่าฝืนมีโทษ ปรับ 2 หมื่นบาท
ผู้ที่เป็นโรคติดต่ออันตราย หรือเข้าข่ายต้องสงสัย หรือมารับการตรวจรักษา ต้องเข้าสู่การแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต ในสถานที่ที่กำหนด จนกว่าจะพ้นระยะติดต่อ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
เมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้สั่งปิดตลาด สถานที่ชุมชน สถานศึกษา หรือสถานที่อื่นใดเป็นการชั่วคราวได้ ให้ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19 หยุดทำงานชั่วคราวได้ และสั่งห้ามผู้ต้องสงสัยว่าเป็นโรค เข้าสถานที่ชุมนุมชน เว้นแต่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน1ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ห้ามเจ้าของ หรือ ผู้ควบคุมยานพาหนะ นำผู้เดินทางที่ไม่ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเข้าประเทศ ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
ส่วน พาหนะที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตควบคุมโรคจากต่างประเทศ ต้องจอดอยู่ในสถานที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น หากฝ่าฝืนมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค บอกว่า ใน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีคำสำคัญ 3 คำ ประกอบด้วย
1. แยกกัก ซึ่งจะเป็นผู้ป่วยที่มีเชื้อแล้วจะต้องนำเข้าแยกกักในห้องแยกโรคความดันเป็นลบ
2. กักกัน เป็นคนที่ยังไม่ป่วย แต่มีโอกาสได้รับเชื้อ จึงจำเป็นต้องให้ กักกัน อยู่ในพื้นที่เฉพาะ เป็นเวลาครบ 14 วัน ซึ่งจากการดำเนินการเช่นนี้ในกลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงที่ผ่านมา มีเพียง 2 % ที่เป็นเสี่ยงสูงแพร่เชื้อ และอีก 98 % เป็นคนปกติ แต่ที่ต้องดำเนินการ เพื่อความปลอดภัย
3.คุมไว้สังเกตอาการ เป็นผู้สัมผัสที่ไม่ใกล้ชิดผู้ป่วย แต่จะต้องคุมไว้สังเกตอาการจนครบ 14 วัน โดยให้อยู่ที่บ้าน และติดตามอาการทุกวัน หากป่วยให้ไปพบแพทย์ เช่น กรณีปู่ย่าหลาน คนในไฟลท์บิน คนที่จัดเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคือคนที่นั่ง 2 แถวหน้า–หลังของผู้ป่วย ส่วนคนร่วมไฟลท์คนอื่น ถือเป็นเสี่ยงต่ำ แต่ต้องคุมไว้สังเกตอาการ
พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย เป็น พนง.ขาย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 1 คน เป็นพนักงานขาย เพศชาย อายุ 21 ปี มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. และมาพบแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน เมื่อวันที่ 25 ก.พ. และตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วก็มีเพิ่มอีก 1 คนเช่นกัน ภาพรวมรักษาหายแล้ว 28 คน เหลือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 14 คน ทำให้ตอนนี้ไทยมียอดผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 42 คน พร้อมย้ำการประกาศให้โรคโควิด-19 ให้เป็นโรคติดต่ออันตรายอันดับที่ 14 มีผลแล้ว ขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมป้องกันโรค อีกทั้งยังฝากถึงการชุมนุมทางการเมืองของเด็กๆและเยาวชน ให้ตระหนักถึงผลที่จะตามมา ถ้ามีคนติดเชื้อโควิด-19จากการชุมนุม จะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการควบคุมโรค เพราะจะมีผู้สัมผัสโรคมากกว่า 30-40 คน ทำให้บุคลากรทางการแพทย์รับมือไม่ไหว และในวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม ใน 9 กรม ของกระทรวงสาธารณสุข จะแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนฟรีคนละ 3 ชิ้น เพื่อลดปัญหาการขาดแคลน
เลื่อนประชุมสุดยอดอาเซียน–สหรัฐอเมริกา พิษโควิด-19
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบจากกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสหรัฐอเมริกาแจ้งเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน–สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ หรือ ASEAN-U.S. Special Summit ในวันที่ 14 มีนาคม ที่จะจัดขึ้นในเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 .- สำนักข่าวไทย