กต.ร่วมภารกิจบินรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่นพรุ่งนี้

กรุงเทพ 3 ก.พ.-ก.ต่างประเทศ นำหน่วยปฏิบัติการภารกิจแบบบูรณาการร่วมภาครัฐ-เอกชน เดินทางไปรับคนไทยในอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย์กลับประเทศไทย วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563


กระทรวงการต่างประเทศ โพสข้อความผ่านทางเฟสบุ๊ค ระบุข้อความผ่านทางเว็บไซต์กระทรวง mfa.go.th/main/th/ กระทรวงการต่างประเทศในฐานะหน่วยงานหลักในการดูแลคนไทยในต่างประเทศ ให้ความสำคัญอย่างสูงสุด ในการดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพของคนไทย โดยนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ในจีน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลใหญ่ไทยทุกแห่งได้แจ้งเตือนคนไทยในพื้นที่ โดยเฉพาะในนครอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ย เกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโรค และให้ข้อมูลการดูแลสุขภาพ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ใช้ช่องทางติดต่อสื่อสาร WeChat และ Hotline ของสถานเอกอัครราชทูตและ สถานกงสุลใหญ่ เพื่อเข้าถึงข้อมูลความช่วยเหลือและคำแนะนาด้านการปฏิบัติตนต่าง ๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกันนี้ ได้จัดส่งหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เหลว รวมถึงโอนเงินให้แก่คนไทย เพื่อจัดหาสิ่งจำเป็นในการยังชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนในภาวะขาดแคลนในบางพื้นที่ อีกทั้งได้ส่งข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง จานวน 3 คน ลงพื้นที่ไปยังนครอู่ฮั่นตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563เพื่อช่วยเหลือดูแลคนไทยและเตรียมพร้อม ด้านต่าง ๆ

โดยในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 กระทรวงการต่างประเทศจะนำหน่วยปฏิบัติภารกิจแบบบูรณาการภาครัฐ-เอกชน ประกอบด้วยกระทรวงสาธารณสุข กรมการกงสุล สายการบินไทยแอร์เอเชีย เดินทางไปรับคนไทยจานวน 145 คน กลับมาจากนครอู่ฮั่น ซึ่งเป็นผู้ที่ได้แจ้งความประสงค์กับสถานเอกอัครราชทูตฯ ภายใต้ความสนับสนุนของ หลายหน่วยงาน อาทิ การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงกลาโหม เป็นต้น ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการเคลื่อนย้ายโดยสมัครใจ เกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับอนุญาตจากทางการจีน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานภายใต้คณะทำงานศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน (Rapid Response Center – RRC) ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยประเมินสถานการณ์ ซักซ้อมแผน และเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหารือขั้นตอนแนวปฏิบัติอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายจีน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 คณะเจ้าหน้าที่ในหน่วยปฏิบัติการได้เข้ารับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้กำชับทั้งเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่กำลังจะเดินทางไปรับ และความปลอดภัยของคนไทยที่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น การเตรียมการตั้งแต่ก่อนเดินทาง และการเตรียมมาตรการรองรับเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย


สำหรับเที่ยวบินที่จะเดินทางออกจากประเทศไทยจะนำสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้แก่ อุปกรณ์ป้องกันตนเองสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน เช่น เครื่องเวชภัณฑ์ หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง เสื้อกาวน์กันน้ำ รวมทั้งความห่วงใย และปรารถนาดีจากประชาชนชาวไทยไปมอบแก่ประชาชนชาวจีน อันเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพที่ใกล้ชิดอันแน่นแฟ้นและยาวนานของสองประเทศ รวมทั้งเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวจีนสามารถต่อสู้ฝ่าฟันสถานการณ์ครั้งนี้และฟื้นฟูประเทศได้โดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง