ปักกิ่ง 14 ม.ค.- ศุลกากรจีนเผยว่า ปีที่แล้วจีนได้ดุลการค้าสหรัฐลดลงร้อยละ 8.5 เนื่องจากทั้งสองประเทศใช้ภาษีลงโทษกันไปมาตลอดการทำสงครามการค้าที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561
ปีที่แล้วจีนได้ดุลการค้าสหรัฐ 295,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.95 ล้านล้านบาท) ลดลงจากปี 2561 ที่ได้ดุลมากเป็นประวัติการณ์ถึง 323,300 (ราว 9.78 ล้านล้านบาท) และได้ดุลการค้ากับทั้งโลก 421,500 (ราว 12.75 ล้านล้านบาท) โฆษกศุลกากรจีนกล่าวว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนและธันวาคมปีก่อน จีนนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น เช่น เนื้อสุกร ถั่วเหลือง แต่จะไม่กระทบการนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น ความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐสร้างแรงกดดันให้แก่การค้าต่างประเทศของจีนและบริษัทจีนที่ส่วนใหญ่ทำการค้ากับสหรัฐ แต่บริษัทเหล่านี้สามารถกระจายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะยอดส่งออกไปประเทศอื่นและยอดส่งออกโดยรวมของจีนเพิ่มขึ้นมากแม้ว่าจีนส่งออกไปสหรัฐลดลง โฆษกกล่าวถึงข้อตกลงการค้าระยะหรือเฟสหนึ่งที่จีนและสหรัฐจะลงนามกันในวันที่ 15 มกราคมที่กรุงวอชิงตันตามเวลาสหรัฐว่า จะมีความสำคัญเชิงบวกอย่างยิ่งไม่เพียงต่อจีนและสหรัฐ แต่ยังจะรวมถึงทั้งโลกด้วย
ปีที่แล้วทั้งปีจีนส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 นำเข้าลดลงร้อยละ 2.8 แต่นำเข้าเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 75 จากปี 2561 เพราะโรคอหิวาต์แอฟริการะบาดในสุกรทำให้สุกรเลี้ยงสัตว์ในประเทศตายหรือถูกกำจัดไปถึงร้อยละ 40 นักวิเคราะห์ของดิอิโคโนมิสต์อินเทลลิเจนซ์มองว่า แม้จีนส่งออกไปยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สามารถชดเชยยอดส่งออกไปตลาดสหรัฐที่ลดลงได้ อย่างไรก็ดี ความพยายามของจีนอาจเริ่มส่งผลแล้ว เห็นได้จากยอดส่งออกไปเวียดนามที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาตลาดส่งออกหลักอื่น ๆ.- สำนักข่าวไทย