สภาหอการค้าฯ-ญี่ปุ่น จัดงานครบ 50 ปี ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น

กรุงเทพฯ 7 พ.ย.-สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผสานพลังญี่ปุ่นจัดงาน “The 50th  ASEAN-Japan Business Meeting” ฉลองความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นครบ 50 ปี เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจและอนาคตที่ยั่งยืนในภูมิภาค

สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ Keizai Doyukai จัดงาน”The 50th ASEAN-Japan Business Meeting” หรือ AJBM ณ โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ซึ่งนับเป็นการเฉลิมฉลองความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นครบ 50 ปี โดยมีผู้นำภาคธุรกิจสำคัญ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือประเด็นสำคัญภายใต้ธีม “การสร้างพันธมิตรที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตที่มั่นคง” โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษ ย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่นในการพัฒนาภาคเศรษฐกิจ และสร้างอนาคตที่รุ่งเรืองและยั่งยืนร่วมกัน โดยภายในงานมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความร่วมมือข้ามภาคส่วนเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับภูมิภาค
 
นายกลินท์ สารสิน ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้เน้นประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย


•ความมั่นคงทางอาหาร: เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง การประชุมได้สนับสนุนและมุ่งพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในอาเซียน ด้วยการกระจายแหล่งโปรตีน พัฒนาพืชทนต่อสภาพอากาศ และเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ
•การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน: เนื่องจากการท่องเที่ยวมีผลกระทบในระดับภูมิภาค การสนทนามุ่งเน้นการส่งเสริมหลักการ ESG สนับสนุนการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงนโยบายค่าจ้างที่เป็นธรรมเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกภาคส่วน
•การขนส่ง: เพื่อรับมือกับความท้าทายจากการขยายตัวของเมือง AJBM ได้ร่วมหารือเรื่องแนวทางการขนส่งที่ยั่งยืน เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองใหญ่ในภูมิภาค รวมถึงระบบควบคุมการจราจรในกรุงเทพฯ ที่พัฒนาร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA)
 
นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และความยั่งยืน ซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อทุกด้านของเศรษฐกิจและสังคมของเรา  การประชุมในวันนี้ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนและญี่ปุ่นในการเติบโตอย่างยั่งยืนและความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจากการจัดทำสมุดปกขาวที่รวบรวมข้อสรุปและข้อเสนอสำคัญ ซึ่งจะถูกนำเสนอต่อรัฐบาลของประเทศสมาชิกAJBM ทั้งหมด เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกอันเป็นประโยชน์ต่อการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งอาเซียนและญี่ปุ่น และเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
 
นายยูจิ ฮิราโกะ ประธานคณะกรรมการความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เอเชียแห่ง Keizai Doyukaiและที่ปรึกษาอาวุโสของ ANA Holdings Inc. กล่าวถึง “โครงการแพลตฟอร์มทรัพยากรมนุษย์อาเซียน-ญี่ปุ่น” ที่เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่น โดยได้เปิดตัวครั้งแรกใน AJBM ครั้งที่ 48 ที่โตเกียว นายฮิราโกะกล่าวเพิ่มเติมว่าภายใต้การสนับสนุนจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชียตะวันออก (ERIA) มีการพัฒนาโครงสร้างเพื่อการพัฒนา การใช้ประโยชน์ และการหมุนเวียนทรัพยากรมนุษย์ระหว่างสองภูมิภาค  โดย Keizai Doyukai ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเพื่อสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นเข้าถึงแรงงานในอาเซียน

นายเซอิจิ อิมาอิ ประธานคณะกรรมการความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เอเชีย Keizai Doyukai และประธานคณะกรรมการมิตซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จของการจัดงานในปีนี้ ส่งผลดีต่อแนวทางการจัดงานในครั้งต่อไป ซึ่งทางญี่ปุ่นจะรักษามาตรฐานของการจัดงานและร่วมมือกับพันธมิตรในอาเซียนของอย่างใกล้ชิดเพื่อขับเคลื่อนร่วมกัน ทั้งนี้ Keizai Doyukai จะทำหน้าที่เตรียมข้อเสนอสำหรับการประชุมปีหน้าอย่างเต็มที่ เพื่อให้ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่งและก้าวหน้าต่อไป


นายยูกิ อิชิดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ YCP Holdings เน้นย้ำว่า AJBM จะเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้นำธุรกิจและผู้กำหนดนโยบายในการแลกเปลี่ยนมุมมอง สร้างพันธมิตร และวางรากฐานความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งอาเซียนและญี่ปุ่น ผลการหารือจะถูกสรุปในสมุดปกขาวที่บรรจุข้อเสนอแนะเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น โดยสมุดปกขาวนี้จะให้ข้อมูลและข้อเสนอแนะถึงประเด็นความมั่นคงทางอาหาร การสนับสนุนการเกษตรแบบยั่งยืน การส่งเสริมพืชที่ทนทานต่อสภาพอากาศ และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อปกป้องภาคเกษตร-อาหารของอาเซียนจากแรงกดดันทางสิ่งแวดล้อมและการเมือง ในด้านการขนส่ง สมุดปกขาวจะเน้นการประสานงานข้ามภาคส่วนและการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อลดความแออัดในเมือง ส่งเสริมสุขภาพของประชาชน และสนับสนุนประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ สำหรับการท่องเที่ยว จะเน้นกลยุทธ์เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน รวมถึงการส่งเสริมจุดหมายทางเลือกและแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งช่วยกระจายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวอย่างยุติธรรมยิ่งขึ้น
 
รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเพิ่มเติมถึงข้อเสนอแนะที่เกิดขึ้นจากการประชุมครั้งที่มุ่งเน้นในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น ประกอบด้วย

1.การส่งเสริมความร่วมมือข้ามภาคส่วน: AJBM เรียกร้องให้มีการจัดตั้งความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในอาเซียนและญี่ปุ่นเพื่อรวบรวมทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน พลังงานสะอาด การเชื่อมโยงตลาดคาร์บอน และเศรษฐกิจหมุนเวียน ความร่วมมือนี้จะเชื่อมโยงช่องว่างทางทรัพยากร ซึ่งจะส่งผลดีต่อความก้าวหน้าของภูมิภาคอาเซียนและญี่ปุ่นความก้าวหน้าที่มีผลกระทบในภูมิภาค
 
2.ความมั่นคงด้านอาหารผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี: การเกษตรที่ยั่งยืนในอาเซียนและญี่ปุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสภาพอากาศและการขาดแคลนอาหารผ่านนวัตกรรม การใช้พืชที่ทนทานต่อสภาพอากาศ การเกษตรแม่นยำ และพลังงานหมุนเวียน แนวคิดนี้ไม่เพียงเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร แต่ยังลดของเสียและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม จะทำให้อาเซียนและญี่ปุ่นก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านการเกษตรที่ยั่งยืนและมั่นคงในอนาคต การผสานการลงทุนในเกษตรแม่นยำและพลังงานหมุนเวียน และโครงการความมั่นคงด้านอาหารร่วมกัน จะสามารถเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตในอาเซียนได้
 
3.เสริมพลังซอฟท์พาวเวอร์ของอาเซียน-ญี่ปุ่นในฐานะสะพานทางการทูตและวัฒนธรรม: ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและทักษะเพื่อให้อาเซียนมีบทบาทเป็นคนกลางในเอเชีย ช่วยสร้างความสมดุลด้านเศรษฐกิจและการทูตกับมหาอำนาจทั่วโลกและส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นเพื่อสร้างภูมิภาคที่ยั่งยืนและมั่นคง แนวทางนี้ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบและส่งเสริมพลังทางวัฒนธรรมของอาเซียน-ญี่ปุ่นผ่านประสบการณ์การเดินทางและท่องเที่ยวที่สร้างสรรค์
 
นายกลินท์ สารสิน ทิ้งท้ายถึงความสำคัญของการประชุมธุรกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 50 ในฐานะที่เป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น ผลลัพธ์ของการประชุม AJBM นี้จะเป็นแนวทางให้กับอาเซียนและญี่ปุ่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทั้งสองภูมิภาค.-516.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.บังคับใช้ 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง

ผบ.ตร. บังคับใช้ 7 มาตรการเข้มข้น แก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ถูกหลอกลวง หรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำชัดให้เห็นผลภายใน 7 วัน หากพบเจ้าหน้าที่มีเอี่ยวหรือบกพร่อง ฟันเด็ดขาด

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

ตร.สอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ “ปิดจบสยบ Fiwfans”

ตำรวจสอบสวนกลาง “เปิดปฏิบัติการปิดจบสยบ Fiwfans (ฟิวแฟน)” เว็บไซต์ค้ากามเด็กออนไลน์ จับแอดมิน 5 ราย ดำเนินคดี พบในรอบ 4 ปี มีหญิงค้าประเวณีผ่านเว็บไซต์กว่า 40,000 ราย อายุต่ำสุด 15 ปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มาตรการสู้ฝุ่น

ขานรับมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน “รถไฟฟ้า-รถเมล์” ขึ้นฟรี

“รถไฟฟ้า-รถเมล์” ฟรีตามมาตรการสู้ฝุ่น เช้าวันทำงาน พบส่วนใหญ่เลือกนั่งรถฟรี ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนรถไฟฟ้าคนแน่น ขณะที่โรงเรียน กทม. 437 แห่ง เปิดเรียนตามปกติ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กทม.อากาศเย็นตอนเช้า-ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน อุณหภูมิลดลง 4-6 องศาฯ กับมีลมแรง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล

เมย์วิวคว้าแชมป์แบด

“เมย์-วิว” คว้าแชมป์อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส

“น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ คว้าแชมป์แบดมินตันอินโดนีเซีย มาสเตอร์ส ในประเภทหญิงเดี่ยวและชายเดี่ยว