สภาหอการค้าฯ-ญี่ปุ่น จัดงานครบ 50 ปี ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น

กรุงเทพฯ 7 พ.ย.-สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผสานพลังญี่ปุ่นจัดงาน “The 50th  ASEAN-Japan Business Meeting” ฉลองความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นครบ 50 ปี เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจและอนาคตที่ยั่งยืนในภูมิภาค

สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ Keizai Doyukai จัดงาน”The 50th ASEAN-Japan Business Meeting” หรือ AJBM ณ โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ซึ่งนับเป็นการเฉลิมฉลองความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นครบ 50 ปี โดยมีผู้นำภาคธุรกิจสำคัญ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือประเด็นสำคัญภายใต้ธีม “การสร้างพันธมิตรที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตที่มั่นคง” โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษ ย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่นในการพัฒนาภาคเศรษฐกิจ และสร้างอนาคตที่รุ่งเรืองและยั่งยืนร่วมกัน โดยภายในงานมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความร่วมมือข้ามภาคส่วนเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับภูมิภาค
 
นายกลินท์ สารสิน ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้เน้นประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย


•ความมั่นคงทางอาหาร: เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง การประชุมได้สนับสนุนและมุ่งพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนในอาเซียน ด้วยการกระจายแหล่งโปรตีน พัฒนาพืชทนต่อสภาพอากาศ และเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ
•การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน: เนื่องจากการท่องเที่ยวมีผลกระทบในระดับภูมิภาค การสนทนามุ่งเน้นการส่งเสริมหลักการ ESG สนับสนุนการท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงนโยบายค่าจ้างที่เป็นธรรมเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกภาคส่วน
•การขนส่ง: เพื่อรับมือกับความท้าทายจากการขยายตัวของเมือง AJBM ได้ร่วมหารือเรื่องแนวทางการขนส่งที่ยั่งยืน เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและระบบการจัดการจราจรอัจฉริยะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองใหญ่ในภูมิภาค รวมถึงระบบควบคุมการจราจรในกรุงเทพฯ ที่พัฒนาร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA)
 
นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และความยั่งยืน ซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อทุกด้านของเศรษฐกิจและสังคมของเรา  การประชุมในวันนี้ได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของอาเซียนและญี่ปุ่นในการเติบโตอย่างยั่งยืนและความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจากการจัดทำสมุดปกขาวที่รวบรวมข้อสรุปและข้อเสนอสำคัญ ซึ่งจะถูกนำเสนอต่อรัฐบาลของประเทศสมาชิกAJBM ทั้งหมด เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกอันเป็นประโยชน์ต่อการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งอาเซียนและญี่ปุ่น และเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
 
นายยูจิ ฮิราโกะ ประธานคณะกรรมการความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เอเชียแห่ง Keizai Doyukaiและที่ปรึกษาอาวุโสของ ANA Holdings Inc. กล่าวถึง “โครงการแพลตฟอร์มทรัพยากรมนุษย์อาเซียน-ญี่ปุ่น” ที่เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่น โดยได้เปิดตัวครั้งแรกใน AJBM ครั้งที่ 48 ที่โตเกียว นายฮิราโกะกล่าวเพิ่มเติมว่าภายใต้การสนับสนุนจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชียตะวันออก (ERIA) มีการพัฒนาโครงสร้างเพื่อการพัฒนา การใช้ประโยชน์ และการหมุนเวียนทรัพยากรมนุษย์ระหว่างสองภูมิภาค  โดย Keizai Doyukai ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเพื่อสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นเข้าถึงแรงงานในอาเซียน

นายเซอิจิ อิมาอิ ประธานคณะกรรมการความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เอเชีย Keizai Doyukai และประธานคณะกรรมการมิตซูโฮ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า ความสำเร็จของการจัดงานในปีนี้ ส่งผลดีต่อแนวทางการจัดงานในครั้งต่อไป ซึ่งทางญี่ปุ่นจะรักษามาตรฐานของการจัดงานและร่วมมือกับพันธมิตรในอาเซียนของอย่างใกล้ชิดเพื่อขับเคลื่อนร่วมกัน ทั้งนี้ Keizai Doyukai จะทำหน้าที่เตรียมข้อเสนอสำหรับการประชุมปีหน้าอย่างเต็มที่ เพื่อให้ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นยังคงแข็งแกร่งและก้าวหน้าต่อไป


นายยูกิ อิชิดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ YCP Holdings เน้นย้ำว่า AJBM จะเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้นำธุรกิจและผู้กำหนดนโยบายในการแลกเปลี่ยนมุมมอง สร้างพันธมิตร และวางรากฐานความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งอาเซียนและญี่ปุ่น ผลการหารือจะถูกสรุปในสมุดปกขาวที่บรรจุข้อเสนอแนะเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น โดยสมุดปกขาวนี้จะให้ข้อมูลและข้อเสนอแนะถึงประเด็นความมั่นคงทางอาหาร การสนับสนุนการเกษตรแบบยั่งยืน การส่งเสริมพืชที่ทนทานต่อสภาพอากาศ และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเพื่อปกป้องภาคเกษตร-อาหารของอาเซียนจากแรงกดดันทางสิ่งแวดล้อมและการเมือง ในด้านการขนส่ง สมุดปกขาวจะเน้นการประสานงานข้ามภาคส่วนและการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อลดความแออัดในเมือง ส่งเสริมสุขภาพของประชาชน และสนับสนุนประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ สำหรับการท่องเที่ยว จะเน้นกลยุทธ์เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน รวมถึงการส่งเสริมจุดหมายทางเลือกและแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งช่วยกระจายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวอย่างยุติธรรมยิ่งขึ้น
 
รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเพิ่มเติมถึงข้อเสนอแนะที่เกิดขึ้นจากการประชุมครั้งที่มุ่งเน้นในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น ประกอบด้วย

1.การส่งเสริมความร่วมมือข้ามภาคส่วน: AJBM เรียกร้องให้มีการจัดตั้งความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในอาเซียนและญี่ปุ่นเพื่อรวบรวมทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน พลังงานสะอาด การเชื่อมโยงตลาดคาร์บอน และเศรษฐกิจหมุนเวียน ความร่วมมือนี้จะเชื่อมโยงช่องว่างทางทรัพยากร ซึ่งจะส่งผลดีต่อความก้าวหน้าของภูมิภาคอาเซียนและญี่ปุ่นความก้าวหน้าที่มีผลกระทบในภูมิภาค
 
2.ความมั่นคงด้านอาหารผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี: การเกษตรที่ยั่งยืนในอาเซียนและญี่ปุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสภาพอากาศและการขาดแคลนอาหารผ่านนวัตกรรม การใช้พืชที่ทนทานต่อสภาพอากาศ การเกษตรแม่นยำ และพลังงานหมุนเวียน แนวคิดนี้ไม่เพียงเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร แต่ยังลดของเสียและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม จะทำให้อาเซียนและญี่ปุ่นก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านการเกษตรที่ยั่งยืนและมั่นคงในอนาคต การผสานการลงทุนในเกษตรแม่นยำและพลังงานหมุนเวียน และโครงการความมั่นคงด้านอาหารร่วมกัน จะสามารถเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคงและยกระดับคุณภาพชีวิตในอาเซียนได้
 
3.เสริมพลังซอฟท์พาวเวอร์ของอาเซียน-ญี่ปุ่นในฐานะสะพานทางการทูตและวัฒนธรรม: ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและทักษะเพื่อให้อาเซียนมีบทบาทเป็นคนกลางในเอเชีย ช่วยสร้างความสมดุลด้านเศรษฐกิจและการทูตกับมหาอำนาจทั่วโลกและส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นเพื่อสร้างภูมิภาคที่ยั่งยืนและมั่นคง แนวทางนี้ยังส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบและส่งเสริมพลังทางวัฒนธรรมของอาเซียน-ญี่ปุ่นผ่านประสบการณ์การเดินทางและท่องเที่ยวที่สร้างสรรค์
 
นายกลินท์ สารสิน ทิ้งท้ายถึงความสำคัญของการประชุมธุรกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 50 ในฐานะที่เป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่น ผลลัพธ์ของการประชุม AJBM นี้จะเป็นแนวทางให้กับอาเซียนและญี่ปุ่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืน และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทั้งสองภูมิภาค.-516.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]

โซเชียลแห่ติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

6 มิ.ย. – ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด มีการส่งกำลังใจให้ผู้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ด้วยแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ที่กำลังร้อนแรงในโลกโซเซียลขณะนี้ หลัง “กองทัพบก Royal Thai Army” เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานปกป้องประเทศชาติ บทเพลงต่างๆ ที่สื่อถึงความรักประเทศไทย ก็ถูกนำมาโพสต์ลงโซเซียลในช่วงนี้เช่นกัน หรือจะเป็นกระแสหกเดือนหก ที่นักช้อปออนไลน์รู้จักกันดี ทางกองทัพก็สามารถนำมาโยง ให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังพล อย่างกองทัพอากาศ โพสต์ภาพ ทหารติดระเบิดบนเครื่องบินรบ นามเรียกขาน “Lightning” พร้อมบรรยายด้วยข้อความ สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย แสดงถึงการพร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย เช่นเดียวกับ เพจกองทัพบก โพสต์ภาพทหารโดดร่ม พร้อมข้อความ Army ส่งด่วน และ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ไม่เพียงแต่เหล่าทัพที่จุดกระแสรักชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประกาศจุดยืน ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ พร้อมบังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการ พิทักษ์พื้นที่ชายแดน […]

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]