กทม. 21 ธ.ค. – การแก้รัฐธรรมนูญเริ่มมีความชัดเจน โดยแนวทางการแก้ไขว่าที่ประธาน กมธ.วิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เห็นว่าควรเริ่มจากศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญที่ส่งผลต่อประชาชนก่อน จึงเดินหน้าแก้เรื่องการเมือง ยืนยันไม่มีใบสั่งในการทำงาน
คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 มีกรอบการทำงาน 120 วัน โดยจะนับหนึ่งในวันอังคารที่ 24 ธันวาคมนี้ ที่จะประชุมนัดแรกเพื่อเลือกประธาน รองประธาน และวางกรอบการทำงานเพื่อให้เป็นในทางเดียวกัน ซึ่งแต่ละฝ่ายยังมีมุมมองที่ต่างกัน
ว่าที่ประธาน กมธ.จากรัฐบาลมองว่า รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของประชาชน จึงควรศึกษาว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีส่วนใดที่ไม่สามารถคุ้มครองดูแลสิทธิของประชาชนได้เต็มที่ เรื่องใดที่ประชาชนได้ประโยชน์และควรได้รับการคุ้มครอง จากนั้นจึงหยิบยกปมที่เป็นประเด็นทางการเมืองมาหารือ เพื่อยืนยันว่าทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของฝ่ายการเมือง พร้อมยืนยันการทำงานครั้งนี้ไม่มีใบสั่งใดๆ
มีเสียงสะท้อนจากทั้งภาคประชาสังคมและการเมืองว่า มาตรา 256 เรื่องเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรรมนูญซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของรัฐธรรมนูญ วางเงื่อนไขการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้รัดกุมจนแทบจะมองไม่เห็นหนทาง เพราะต้องใช้เสียง ส.ส. และกำหนดให้ใช้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 ดังนั้นหากรัฐบาลจะแก้ไข จำเป็นต้องส่งสัญญาณไปยัง ส.ว. เพื่อเดินหน้าปลดล็อกเรื่องนี้ แต่กรรมาธิการชุดนี้จะสะท้อนปัญหาได้มากน้อยเพียงใด เพราะประเด็นสำคัญที่ฝ่ายการเมืองพุ่งเป้าคือที่มา ส.ส. ส.ว. และองค์กรอิสระ แต่ผู้ที่ร่างรัฐธรรมนูญกลับมองต่างว่ารัฐธรรมนูญเพิ่งใช้ ปัญหาน่าจะเป็นเรื่องการตีความ เช่นเรื่องการเป็นเจ้าของสื่อ ส่วนปัญหาอื่นเกิดจากกฎหมายลูก
กรรมาธิการชุดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ที่สุดแล้วแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร สำเร็จหรือไม่ จะเป็นบทพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาลว่าจะทำตามที่หาเสียงไว้ รวมทั้งจะส่งสัญญาณไปยังวุฒิสภาที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. ให้เดินหน้าเรื่องนี้ด้วย. – สำนักข่าวไทย