ตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อเมาแล้วขับ”

กทม.19 ธ.ค.-เครือข่ายเมาไม่ขับ เปิดเวทีสาธารณะเมาแล้วขับ รวยก็ไม่รอดคุก เรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเหยื่อซ้ำสองจากคนเมาแล้วขับ พร้อมตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อเมาแล้วขับ” ให้คำแนะนำในการต่อสู้คดีโดยทีมทนายอาสา ซึ่งไม่คิดค่าใช้จ่าย 


วันนี้ (19ธ.ค.) ที่ รร.แกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา และประธานเครือข่ายนิติบัญญัติเพื่อถนนปลอดภัยในภูมิภาคอาเซียน เป็นประธานเปิดเวทีสาธารณะ เมาแล้วขับ รวยก็ไม่รอด (คุก) โดยมีผู้ร่วมเวทีแลกเปลี่ยน อาทิ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ นายวรวิทย์ ศรีอนันต์รักษา อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)นายอนุวัติ เตียวตระกูล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายมูลนิธิเมาไม่ขับ นายเจษฏา แย้มสบาย เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกรุงเทพฯ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมด้วยผู้แทนภาคีภาครัฐ เอกชน เข้าร่วมงานจำนวนมาก

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า ในฐานะทำงานขับเคลื่อนการรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมา 23 ปี ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ค้นพบ คือ บนท้องถนนยังมีคนเมาแล้วขับ ส่งผลให้เกิดเหยื่อเมาแล้วขับที่ได้รับทุกข์เวทนาแสนสาหัสหมดสิ้น ซึ่งอนาคตที่วาดหวังไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งที่ประเทศไทยมีกฎหมายเมาไม่ขับบังคับใช้มานาน ทางมูลนิธิฯก็ยังได้รับการร้องเรียนจากเหยื่อเมาแล้วขับอยู่เสมอว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยอาศัยเล่ห์เหลี่ยม ช่องว่างทางกฏหมายหรือความรู้ไม่เท่าทันของเหยื่อ  ทำให้ไม่ได้รับการเยียวยาและชดเชยเท่าที่ควรจะได้ กลายเป็นเหยื่อซ้ำสองทำให้ต้องตกอยู่ในความเจ็บปวดรวดร้าวไปตลอดชีวิต


ดังนั้น จึงเห็นว่าถึงเวลาที่คนไทยต้องเปลี่ยนความคิด เลิกเห็นใจคนเมาแล้วขับและหันมามองถึงความสูญเสียของเหยื่อเมาแล้วขับที่ถูกกระทำ จากการรวบรวมข้อมูลของเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับพบว่า รูปแบบการเอารัดเอาเปรียบเหยื่อเมาแล้วขับมีสารพัดวิธี อาทิ 1.ผู้ก่อเหตุหลบเลี่ยงการตรวจแอลกอฮอล์  2.ประวิงเวลาในระหว่างที่เหยื่อรักษาตัว เพื่อให้คดีขาดอายุความ  3.เสนอค่าเยียวยาให้จำนวนหนึ่ง โดยแจ้งกับเหยื่อว่า ถ้าอยากได้มากกว่าที่เสนอให้ ก็ให้ไปฟ้องร้องต่อศาลเอาเอง 4.ให้เซ็นเอกสารโดยไม่มีข้อความใดๆ 5.วิ่งเต้นให้ตกเป็นผู้ต้องหาในฐานะประมาทร่วม เพื่อปฏิเสธความรับผิดชอบ 6.ยอมทำข้อตกลงในการเยียวยาเหยื่อ ด้วยการขอผ่อนชำระให้เป็นรายเดือน ถึงเวลาจริงกลับเบี้ยวไม่ผ่อนชำระให้

“จากกรณีดังกล่าวข้างต้นจะเห็นว่าการขาดความรู้ที่ถูกต้องตั้งแต่ต้นทำให้ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องกลายเป็นเหยื่อซ้ำสอง สร้างความเจ็บปวด จนยากที่บรรยาย เหตุนี้มูลนิธิเมาไม่ขับ จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อเมาแล้วขับ”เพื่อให้คำแนะนำปรึกษาเบื้องต้นในการต่อสู้คดีกับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากคนเมาแล้วขับและไม่ทราบว่าจะต่อสู้อย่างไร โดยทีมทนายอาสาที่มีประสบการณ์ในคดีอุบัตเหตุจราจรมานานโดยไม่คิดมูลค่า คาดหวังว่าจะสามารถนำความยุติธรรมและความเป็นธรรมกลับมาและไม่ต้องตกเป็นเหยื่อช้ำสองอีกต่อไป โดยสามารถติดต่อขอคำปรึกษา ขอความช่วยเหลือได้ ตลอด 24 ชั่วโมงทาง 081-4439953 ID ไลน์ 0814439953  ศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อเมาแล้วขับ” นพ.แท้จริง กล่าว  .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง