กรุงเทพฯ 9 ธ.ค. – นักวิเคราะห์ มอง SSF ช่วยกระตุ้นคนรุ่นใหม่ สนใจการออม แนะศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวในงานสัมมนา Hot Issue ครั้งที่ 4 ปี 2562 “กลยุทธ์ลงทุนช่วงเปลี่ยนผ่าน LTF เป็น SSF” ที่จัดขึ้นโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวถึงหลังจากที่ ครม. มีมติเห็นชอบให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund: SSF) พร้อมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) เพื่อส่งเสริมการลงทุนในระยะยาวนั้น ว่า เป็นการกระตุ้นการออมให้กับผู้ที่มีฐานรายได้ระดับปานกลาง จึงขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากเดิมที่ 15% เป็น 30% และปรับให้การออมเพื่อการเกษียณมีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยโครงสร้างใหม่ของกองทุน SSF แตกต่างจาก LTF อย่างสิ้นเชิง เพราะสามารถลงทุนอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้น และมองว่าการถือครองครบ 10 ปี เป็นอุปสรรคของคนที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป แต่การที่ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปีก็ถือเป็นทางเลือกในการออม ซึ่งผู้ลงทุนต้องศึกษาให้ดีก่อนการลงทุนว่าการลงทุนแบบไหนเกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเรา
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทย ปี 2563 ยังมีมุมมองเชิงบวก และสินทรัพย์ที่น่าลงทุนยังเป็นหุ้น เพราะมีอัตราผลตอบแทนที่โดดเด่น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะยังทรงตัว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งด้านการบริโภค การท่องเที่ยว รวมถึงงบประมาณปี 2563 ที่คาดว่าจะเริ่มใช้จ่ายได้ต้นปี จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโต ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยน่าสนใจ โดยคาดว่ากรอบดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,600-1,800 จุด ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ โดยเน้นหุ้นที่มีเงินปันผล ราคาไม่แพงและกำไรสุทธิยังคงเติบโตได้ เพื่อลดความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงกองทุน Active Fund
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า SSF เป็นพัฒนาการของการออม ที่ช่วยส่งเสริมการออมในระยะยาว ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์ตลาดทุนมากนัก ทั้งนี้ ขนาดของกองทุน LTF ทั้งอุตสาหกรรมในปัจจุบัน มีประมาณ 400,000 ล้านบาท ทั้งนี้ การที่ไม่มีการต่ออายุโครงการออกไป คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกประมาณ 30,000 – 40,000 ล้านบาท และประเมินว่าจะมีเม็ดเงินจาก SSF เข้ามาทดแทนประมาณ 20,000 – 40,000 ล้านบาท ซึ่ง SSF มีความหลากหลายในการลงทุนมากขึ้น ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป วัยเริ่มต้นทำงาน การออมระยะ 10 ปี เพื่ออนาคตจึงถือเป็นเรื่องที่ดี พร้อมย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน . – สำนักข่าวไทย