สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ฝากรัฐบาลใหม่ เร่งส่งเสริมตลาดทุน

กรุงเทพฯ 17 มี.ค.-นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ฝากรัฐบาลใหม่ เร่งส่งเสริมตลาดทุน ปัดฝุ่น “LTF” ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีดึงคนออมเงิน ยกเลิกแนวคิดเก็บภาษีซื้อ-ขายหุ้น เชื่อวิกฤติแบงก์ล้ม ในต่างประเทศ ยังไม่กระทบตลาดหุ้นไทย ชี้ หากยุบสภาเลือกตั้งใหม่ มีโอกาสปรับตัวขึ้นสูง หลังนักลงทุนคลายกังวล 


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้จำกัด กล่าวถึงภาพรวมดัชนีหุ้นไทย หากมีการประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ว่า ในอดีตข่าวการเลือกตั้งจะทำให้ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้น ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งประมาณ 2-3 เดือน แต่ด้วยผลกระทบจากกรณีแบ็งค์ล้มในสหรัฐและยุโรป ทำให้ดัชนีไทยยังไม่ปรับตัวขึ้น แต่เชื่อว่าเมื่อนักลงทุนคลายความวิตกกังวล และหันมาโฟกัสที่การเลือกตั้งดัชนีน่าจะมีการปรับขึ้น เนื่องจากก่อนการเลือกตั้ง จะต้องมีการหาเสียง เงินจะสะพัด มีการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายประชานิยม ทำให้ sentiment ตลาดดีขึ้น จนทำให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นมา โดยหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคจะได้ประโยชน์ เพราะเงินในกระเป๋าประชาชนจะมีมากขึ้น จากนโยบายประชานิยม ขณะที่หุ้นที่เกี่ยวข้อกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง ทำให้นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไร รวมถึงกลุ่มหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการจ่ายเงินปันผลพอดี 

สำหรับนโยบาย ที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดทุน ที่อยากให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาส่งเสริม มี 2 ด้าน คือด้าน ดีมานด์ หรือ คนที่เอาเงินมาออมในตลาดทุน ที่ปัจุบันมีประมาณ 3 ล้าน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำ  จึงมีความจำเป็นที่รัฐบาล จะต้องส่งเสริมให้คนเข้ามาสู่ตลาดหุ้น เพราะในระยะยาว ผลตอบแทนในตลาดทุนย่อมสูงกว่า ยิ่งไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยจึงต้องมีรายได้หลายๆทาง  วิธีที่ดีที่สุด คือการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมให้คนมาลงทุน ทั้งการลงทุนในกองทุน หรือ เข้ามาลงทุนด้วยตัวเอง ซึ่งต้องคิดถึงมาตรการต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนให้เยาวชนเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต


ขณะที่ฝั่งซัพพลาย หรือฝั่งการระดมทุน อยากเห็นรัฐบาลใช้ตลาดทุนให้มากขึ้น ล่าสุด รัฐบาลมีการสร้างกองทุนสร้างโอกาส หรือ Thailand Future Fund แต่แล้วกลับเงียบหายไป  ทั้งที่รัฐบาลไทยมีหนี้สินค่อนข้างสูง ทะเลเพดานหนี้เดิม 60 %  จนต้องขยายเพดานหนี้เป็น 70 % จึงควรเริ่มหันมาให้ความสนใจตลาดทุน เพราะเป็นการใช้เม็ดเงินลงทุนที่ไม่ใช่หนี้  ส่วนอีกเรื่อง คือการแก้ไขกฎระเบียบที่ยังเป็นอุปสรรค ล้าสมัย หรือทำให้เคลื่อนตัวได้ช้า ซึ่งสมาคมจะทำความเห็นเสนอรัฐบาลชุดใหม่ เพราะคิดว่าท้ายที่สุด หากตลาดทุนเข้มแข็ง จะทำให้เศรษฐกิจประเทศเข้มแข็งตามไปด้วย 

สำหรับข้อเสนอของหลายคนที่อยากให้รัฐบาลหยิบ LTF มาปัดฝุ่นอีกครั้ง เพื่อช่วยประคองดัชนียามตลาดผันผวนนั้นส่วนตัวตนไม่มองเรื่องการพยุงตลาด แต่มองเรื่องสำคัญกว่า คือการส่งเสริมให้คนมีการออม  มีเงินลงทุนมากขึ้น ซึ่งLTF เคยเป็นคำตอบมา 10 กว่าปี จนรัฐบาลที่ผ่านมายกเลิกไป โดยอาจสามารถคิดรูปแบบอื่นมาแทนได้ พร้อมย้ำว่าการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี มีความจำเป็นในการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนได้

นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ยังกล่าวถึงเรื่องของการจัดเก็บภาษีซื้อขายหุ้นที่รัฐบาลชุดนี้ชะลอการจัดเก็บออกไปว่า ไม่อยากให้มีการจัดเก็บภาษีในส่วนนี้ เพราะไม่ถูกกับบริบทของตลาดทุนไทย ในระยะ  5- 10 ปีนี้ แม้บางคนจะมองว่ามีการยกเว้นมาให้แล้วถึง 30 ปี แต่ก็มีตัวอื่นเข้ามาทดแทน หากมีการเพิ่มอุปสรรคในการลงทุนในตลาดหุ้น  ทำให้ลงทุนได้ยากขึ้น แพงขึ้น จะทำให้ตลาดทุนพัฒนาขึ้นได้ยาก ขณะที่วันนี้ตลาดทุนไทยยังพัฒนาไม่เต็มที่ มีคนที่ออมเงินแค่ 3 ล้านคน จึงมีความจำเป็นให้ตลาดหุ้นเป็นแหล่งทุนของ เอสเอ็มอี หรือสตาร์ทอัพ  ซึ่งสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนว่ากลุ่มเอสเอ็มอี ไม่สามารถพึ่งพาระบบธนาคารได้ 


ส่วนวิกฤติธนาคารล้มในต่างประเทศ เชื่อว่าจะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยไม่มาก เพราะอยู่คนละบริบท ขณะที่ วงจรเศรษฐกิจ ก็ไม่ตรงกัน เศรษฐกิจในสหรัฐ ปี 2021 ฟื้นตัวค่อนข้างแรง 5-6 %  แต่ของไทยยังไม่ฟื้นโตเพียง 1% ต่อมาปี 2022  หลายประเทศฟื้นตัวลดลง ไทยเพิ่งเริ่มฟื้นตัว เพียง 2.6 % จึงเหมือนไทยยังไม่ฟื้นตัวดี หลังเศรษฐกิจติดลบ6 % ในปี 2020  ฟองสบูจึงยังไม่มี ขณะที่ภาคธนาคารของไทย ก็ไม่เหมือนธนาคารที่ถูกปิดกิจการไป เพราะธนาคารเหล่านั้น อาจจะปล่อยกู้น้อย เงินที่ได้จากการะดมเงินฝาก จึงเอาไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ธนาคารไทยไม่ใช่แบบนั้น เพราะลงทุนในการปล่อยกู้เป็นหลัก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยไทยยังไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นเหมือนในสหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นไทยที่มีความผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงอาจเป็นเรื่องของแพนิคมากกว่า     อย่างไรตาม สถานการณ์จะยืดเยื้อหรือไม่ อาจยังตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่ายังมีอะไรซุกใต้พรมอีกหรือไม่ จึงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย          

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่