สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ฝากรัฐบาลใหม่ เร่งส่งเสริมตลาดทุน

กรุงเทพฯ 17 มี.ค.-นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ฝากรัฐบาลใหม่ เร่งส่งเสริมตลาดทุน ปัดฝุ่น “LTF” ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีดึงคนออมเงิน ยกเลิกแนวคิดเก็บภาษีซื้อ-ขายหุ้น เชื่อวิกฤติแบงก์ล้ม ในต่างประเทศ ยังไม่กระทบตลาดหุ้นไทย ชี้ หากยุบสภาเลือกตั้งใหม่ มีโอกาสปรับตัวขึ้นสูง หลังนักลงทุนคลายกังวล 


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้จำกัด กล่าวถึงภาพรวมดัชนีหุ้นไทย หากมีการประกาศยุบสภา และจัดการเลือกตั้งใหม่ว่า ในอดีตข่าวการเลือกตั้งจะทำให้ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้น ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งประมาณ 2-3 เดือน แต่ด้วยผลกระทบจากกรณีแบ็งค์ล้มในสหรัฐและยุโรป ทำให้ดัชนีไทยยังไม่ปรับตัวขึ้น แต่เชื่อว่าเมื่อนักลงทุนคลายความวิตกกังวล และหันมาโฟกัสที่การเลือกตั้งดัชนีน่าจะมีการปรับขึ้น เนื่องจากก่อนการเลือกตั้ง จะต้องมีการหาเสียง เงินจะสะพัด มีการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายประชานิยม ทำให้ sentiment ตลาดดีขึ้น จนทำให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นมา โดยหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคจะได้ประโยชน์ เพราะเงินในกระเป๋าประชาชนจะมีมากขึ้น จากนโยบายประชานิยม ขณะที่หุ้นที่เกี่ยวข้อกับกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่มีโอกาสชนะการเลือกตั้ง ทำให้นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไร รวมถึงกลุ่มหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการจ่ายเงินปันผลพอดี 

สำหรับนโยบาย ที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดทุน ที่อยากให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาส่งเสริม มี 2 ด้าน คือด้าน ดีมานด์ หรือ คนที่เอาเงินมาออมในตลาดทุน ที่ปัจุบันมีประมาณ 3 ล้าน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำ  จึงมีความจำเป็นที่รัฐบาล จะต้องส่งเสริมให้คนเข้ามาสู่ตลาดหุ้น เพราะในระยะยาว ผลตอบแทนในตลาดทุนย่อมสูงกว่า ยิ่งไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยจึงต้องมีรายได้หลายๆทาง  วิธีที่ดีที่สุด คือการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมให้คนมาลงทุน ทั้งการลงทุนในกองทุน หรือ เข้ามาลงทุนด้วยตัวเอง ซึ่งต้องคิดถึงมาตรการต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนให้เยาวชนเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต


ขณะที่ฝั่งซัพพลาย หรือฝั่งการระดมทุน อยากเห็นรัฐบาลใช้ตลาดทุนให้มากขึ้น ล่าสุด รัฐบาลมีการสร้างกองทุนสร้างโอกาส หรือ Thailand Future Fund แต่แล้วกลับเงียบหายไป  ทั้งที่รัฐบาลไทยมีหนี้สินค่อนข้างสูง ทะเลเพดานหนี้เดิม 60 %  จนต้องขยายเพดานหนี้เป็น 70 % จึงควรเริ่มหันมาให้ความสนใจตลาดทุน เพราะเป็นการใช้เม็ดเงินลงทุนที่ไม่ใช่หนี้  ส่วนอีกเรื่อง คือการแก้ไขกฎระเบียบที่ยังเป็นอุปสรรค ล้าสมัย หรือทำให้เคลื่อนตัวได้ช้า ซึ่งสมาคมจะทำความเห็นเสนอรัฐบาลชุดใหม่ เพราะคิดว่าท้ายที่สุด หากตลาดทุนเข้มแข็ง จะทำให้เศรษฐกิจประเทศเข้มแข็งตามไปด้วย 

สำหรับข้อเสนอของหลายคนที่อยากให้รัฐบาลหยิบ LTF มาปัดฝุ่นอีกครั้ง เพื่อช่วยประคองดัชนียามตลาดผันผวนนั้นส่วนตัวตนไม่มองเรื่องการพยุงตลาด แต่มองเรื่องสำคัญกว่า คือการส่งเสริมให้คนมีการออม  มีเงินลงทุนมากขึ้น ซึ่งLTF เคยเป็นคำตอบมา 10 กว่าปี จนรัฐบาลที่ผ่านมายกเลิกไป โดยอาจสามารถคิดรูปแบบอื่นมาแทนได้ พร้อมย้ำว่าการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี มีความจำเป็นในการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนได้

นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ยังกล่าวถึงเรื่องของการจัดเก็บภาษีซื้อขายหุ้นที่รัฐบาลชุดนี้ชะลอการจัดเก็บออกไปว่า ไม่อยากให้มีการจัดเก็บภาษีในส่วนนี้ เพราะไม่ถูกกับบริบทของตลาดทุนไทย ในระยะ  5- 10 ปีนี้ แม้บางคนจะมองว่ามีการยกเว้นมาให้แล้วถึง 30 ปี แต่ก็มีตัวอื่นเข้ามาทดแทน หากมีการเพิ่มอุปสรรคในการลงทุนในตลาดหุ้น  ทำให้ลงทุนได้ยากขึ้น แพงขึ้น จะทำให้ตลาดทุนพัฒนาขึ้นได้ยาก ขณะที่วันนี้ตลาดทุนไทยยังพัฒนาไม่เต็มที่ มีคนที่ออมเงินแค่ 3 ล้านคน จึงมีความจำเป็นให้ตลาดหุ้นเป็นแหล่งทุนของ เอสเอ็มอี หรือสตาร์ทอัพ  ซึ่งสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนว่ากลุ่มเอสเอ็มอี ไม่สามารถพึ่งพาระบบธนาคารได้ 


ส่วนวิกฤติธนาคารล้มในต่างประเทศ เชื่อว่าจะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยไม่มาก เพราะอยู่คนละบริบท ขณะที่ วงจรเศรษฐกิจ ก็ไม่ตรงกัน เศรษฐกิจในสหรัฐ ปี 2021 ฟื้นตัวค่อนข้างแรง 5-6 %  แต่ของไทยยังไม่ฟื้นโตเพียง 1% ต่อมาปี 2022  หลายประเทศฟื้นตัวลดลง ไทยเพิ่งเริ่มฟื้นตัว เพียง 2.6 % จึงเหมือนไทยยังไม่ฟื้นตัวดี หลังเศรษฐกิจติดลบ6 % ในปี 2020  ฟองสบูจึงยังไม่มี ขณะที่ภาคธนาคารของไทย ก็ไม่เหมือนธนาคารที่ถูกปิดกิจการไป เพราะธนาคารเหล่านั้น อาจจะปล่อยกู้น้อย เงินที่ได้จากการะดมเงินฝาก จึงเอาไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ธนาคารไทยไม่ใช่แบบนั้น เพราะลงทุนในการปล่อยกู้เป็นหลัก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยไทยยังไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นเหมือนในสหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นไทยที่มีความผันผวนในสัปดาห์นี้ จึงอาจเป็นเรื่องของแพนิคมากกว่า     อย่างไรตาม สถานการณ์จะยืดเยื้อหรือไม่ อาจยังตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่ายังมีอะไรซุกใต้พรมอีกหรือไม่ จึงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย          

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

จับแล้ว “เกม” มือยิงยัดถังถ่วงอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบศพถูกยัดใส่ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร โยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ จ.นครสวรรค์ วันนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จากเหตุสยองอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เมื่อมีผู้พบศพชายปริศนา ถูกยัดอยู่ภายในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ลอยอยู่ใกล้กับตลิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจ สภ.ตะคร้อ ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหาคำตอบให้กับเหตุการณ์อันโหดเหี้ยมนี้ เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน และมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง จากการตรวจสอบในถังพลาสติกยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ ถุงปุ๋ย และกระเป๋าสะพายข้าง ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถค้นหาและทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายจุฑาเพชร หรืออ้วน อายุ 44 ปี ที่รับจ้างทำไร่ในพื้นที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี จากการสืบสวนและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่านายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบรถกระบะและห้างนาของนายเกม ยิ่งพบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่านายเกมคือคนร้าย […]

ตั้ง 2 ประเด็น เหตุบุกยิง ครู-อส. งานแข่งตะกร้อ

นราธิวาส 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเหตุคนร้ายยิงถล่ม สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส คาดผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ ส่วนเหตุบุกยิง ครู-อส. กลางงานแข่งตะกร้อ จนท.ตั้ง 2 ปมก่อเหตุ “ปัญหาส่วนตัว-ความมั่นคง” จากเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และยิงใส่ป้อมรักษาการประตู กระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 15 นาที จนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสิบตำรวจเอก เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตำรวจที่เสียชีวิต เป็นสถานที่จัดงานให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลังนำร่าง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) นางสาวนุชฮูดา […]

ทางออก 3 ข้อ ไทย-กัมพูชา ตกลงร่วมคลี่คลายสถานการณ์ช่องบก

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เช้าวานนี้ (28 พ.ค.) บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 2 แม้ไม่มีการปะทะเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังแน่นหนา ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การแก้ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้คุยกันแล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ข้อสรุป 3 ข้อ.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]