fbpx

ส่งรถ STC-3 ลงแข่งขันรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก

กทม.4 ต.ค.-สถาบันการศึกษาของไทย ส่งรถ STC-3 ลงสนามแข่งขันรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก ที่ประเทศออสเตรเลีย ชิงความเป็นที่ 1 สุดยอดทางด้านรถพลังงานแสงอาทิตย์


คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) สถาบันการศึกษาหนึ่งที่เชี่ยวชาญการออกแบบ ผลิตและพัฒนารถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทย ได้ส่งรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ STC-3 และทีมงาน14 ชีวิตออกเดินทางสู่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อเตรียมพร้อมกับการแข่งขันรายการใหญ่อันดับโลก Bridgestone World Solar Challenge 2019 การแข่งขันรถไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อันดับหนึ่งของโลกในฐานะตัวแทนประเทศไทย 


สำหรับ Bridgestone World Solar Challenge 2019 เป็นการแข่งขันในเส้นทางที่สุดทรหดเส้นทางหนึ่งของโลก โดยรถที่เข้าแข่งขันจะต้องเดินทางด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว  ห้ามใช้พลังงานจากน้ำมันในระยะทาง 3,022 กิโลเมตร  ตั้งแต่เมืองดาร์วิน (Darwin) ทางเหนือสุดของออสเตรเลีย สู่เมืองอะดิเลด (Adelaide) ทางใต้สุดของประเทศ ด้วยเส้นทางสุดทรหดนี้ ทำให้การแข่งขัน Bridgestone World Solar Challenge 2019 เป็นการรวมตัวกันของผู้กล้า นักผจญภัย และนักนวัตกรรมสายเลือดใหม่จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อมาแข่งขันชิงความเป็นที่หนึ่งหรือสุดยอดทางด้านรถพลังงานแสงอาทิตย์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

การแข่งขันครั้งนี้ทีม STC-3 ของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามจะต้องแข่งขันกับมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทั่วโลก อย่างสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (MIT), มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด, มหาวิทยาลัยมิชิแกน, มหาวิทยาลัยโตไก ฯลฯ 


ขณะที่ในปีนี้รถ STC-3 ติดหมายเลขรถเบอร์ 49 และลงแข่งขันในรุ่น Cruiser Class หรือรถต้นแบบของอนาคต ซึ่งในวันที่ 5 ตุลาคม 2562 จะลงสนามทดสอบประสิทธิภาพรถที่สนาม Hidden Valley Motor Sport Complex และในวันที่ 7 ตุลาคม 2562 รถ STC-3 จะเข้าทดสอบประสิทธิภาพทั้งระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องกล ระบบเบรก พวงมาลัย วงเลี้ยว ไฟหน้า ไฟท้าย แบตเตอรี่และทดสอบการวิ่งขับเคลื่อน โดยคณะกรรมการของการแข่งขัน Bridgestone World Solar Challenge 2019 จะเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้ตรงกับกฎข้อบังคับที่ได้กำหนดไว้ หลังจากผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วรถ STC-3 จะได้รับทะเบียนรถของประเทศออสเตรเลียเหมือนกับรถทั่วไปและสามารถวิ่งบนถนนที่ออสเตรเลียได้โดยไม่ผิดกฎหมาย  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ