สาธรซิตี้ 3 ต.ค. – บล.เอเซียพลัสคงเป้าหุ้นไทยปีนี้ 1,655 จุด ปัจจัยหนุนจากดอกเบี้ยขาลง และกำไร บจ.ไตรมาส 3 ดีขึ้น แนะหุ้นปันผลสูงน่าลงทุน PTTEP , LH , SPALI , BBL, JWD , PLANB
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการและหัวหน้าสายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ยังคงเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้ที่ระดับ 1,655 จุด ระดับราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ 16.45 เท่า โดยแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนปี 2562 รวมทั้งสิ้น 999,000 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 100.64 บาท ซึ่งดัชนีเป้าหมายดังกล่าวมี Upside จากปัจจุบันประมาณร้อยละ 1-2
สำหรับทิศทางหุ้นไทยไตรมาสสุดท้ายปี 2562 น่าจะแกว่งตัวขึ้น โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือนพฤศจิกายน 2562 มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ทำให้ส่วนต่างผลตอบแทนตลาดหุ้นกับตลาดตราสารหนี้มีมากขึ้น หนุนให้ส่วนต่างผลตอบแทนตลาดหุ้นเทียบกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเพิ่มขึ้นมาที่ร้อยละ 4.68 สูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลังร้อยละ 4.28 ส่งผลให้ตลาดหุ้นน่าสนใจและมีโอกาสเห็นเม็ดเงินโยกย้ายเข้ามาลงทุน ขณะเดียวกันได้ปัจจัยหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรรวม 250,000 ล้านบาท ดีกว่ากำไรไตรมาส 2
นอกจากนี้ มีความคาดหวังว่าการพิจารณางบประมาณปี 2563 วาระแรกวันที่ 17 ตุลาคม 2562 รวมทั้งมีความคาดหวังว่าไทยอาจถูกปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือ 1 ขั้นเป็น Upper Medium Grade ทั้ง 2 ประเด็นนี้จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด
ส่วนปัจจัยกดดันเรื่องสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ยังมีน้ำหนักกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก เช่นเดียวกับข้อพิพาททางการค้าสหรัฐ-ยุโรป แต่ผลกระทบอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากสินค้าจากยุโรปที่ถูกเก็บภาษีจะเป็นสินค้าเกษตร ไม่ใช่สินค้าหลักที่ไทยส่งออก และวงเงินที่ถูกเรียกเก็บภาษีไม่มากประมาณ 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามกรณีอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป ( Brexit ) ว่าจะออกแบบไร้ข้อตกลง (No Deal) หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่เกิด No Deal
นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า สายงานวิจัยฯ คัดกรองมาเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูง หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง คือ PTTEP , LH , SPALI และยังมีหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์อย่าง BBL ที่ควรหาจังหวะเข้าซื้อหลังประกาศงบ 3Q62 รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้แก่พอร์ตได้อย่าง JWD , PLANB เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย