ธ.ทิสโก้ เปิด 3 ธีมกองทุน ฟันกำไรครึ่งหลังปี 67

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – ธนาคารทิสโก้เปิด 3 ธีมกองทุน เพิ่มโอกาสสร้างกำไรครึ่งปีหลังช่วงดอกเบี้ยขาลงเศรษฐกิจฟื้น เน้นกลุ่ม Emerging Market จีน-เวียดนาม-อินเดีย-ไทย โอกาสสร้างกำไร 20-25% ธีมกลุ่มหุ้นเติบโตสูง AI-พลังงานสะอาด และธีมตราสารหนี้โลก


นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ Head of Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกปรับตัวเป็นขาลง และเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ในสถานการณ์เช่นนี้เป็นผลบวกอย่างมากกับสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง “หุ้น” ดังนั้น ธนาคารทิสโก้จึงแนะนำให้ลูกค้าเลือกลงทุนใน 3 ธีมกองทุนหลัก คือ

  1. ธีมตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market: EM) ซึ่งมีโอกาสสร้างกำไร 20-25% โดยมีประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ จีน เวียดนาม อินเดีย และไทย
  2. ธีมกลุ่มหุ้นเติบโต ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ AI และ กลุ่มพลังงานสะอาด โดยทั้งสองธีมลงทุนเป็นหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ที่มีโอกาสสร้างกำไรอย่างก้าวกระโดดในระยะยาวตามความต้องการของผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม และ 3. ธีมตราสารหนี้โลก ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ

สำหรับรายละเอียด 3 ธีมกองทุนมีดังนี้


  1. ธีมการลงทุนตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market : EM)
    ธนาคารทิสโก้มองว่าตลาดหุ้นกลุ่มนี้มีโอกาสสร้างกำไรประมาณ 20-25% สูงกว่าตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market :DM) ที่มีโอกาสสร้างกำไรประมาณ 10% ขณะที่เศรษฐกิจกลุ่มประเทศ EM ตามการประเมินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าจะเติบโตสูงที่
    4.2% มากกว่า DM ที่เติบโต 1.7% อีกทั้ง นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนกลุ่ม EM ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเติบโตสูงถึง 19.4% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ขยายตัวดีกว่าหุ้นกลุ่ม DM ที่เติบโตอยู่ที่ 5.9% นอกจากนี้ มูลค่าหุ้นยังอยู่ในระดับน่าสนใจโดยมีระดับอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นใน 12 เดือนข้างหน้า (Forward P/E) ที่ 12.2 เท่า น้อยกว่าตลาดหุ้น DM ที่อยู่ในระดับ 18.3 เท่า

โดยมีประเทศในกลุ่ม EM ที่น่าสนใจ 4 ประเทศ คือ
1)อินเดีย ประเทศที่เศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก โดย IMF คาดการณ์ว่าขนาดของเศรษฐกิจอินเดียจะใหญ่แซงหน้าประเทศญี่ปุ่นขึ้นเป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2568 นี้ ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจปี 2567 จะเติบโต 7.8% เมื่อเทียบปีก่อน (YoY) และคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเติบโต 9.7%
2)จีน รัฐบาลจีนเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและออกนโยบาย อาทิ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR), ปรับลดอัตราส่วนสำรองของธนาคาร (RRR), ออกวงเงินกู้ยืมให้บริษัทของภาครัฐเพื่อนำเงินไปซื้ออสังหาฯ โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2567 อยู่ที่ 4.94% YoY มีมูลค่าตลาดหุ้นถูกโดยซื้อขายที่ระดับ Forward P/E ที่ 11.30 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 12.3 เท่าและคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเติบโต 20.7%
3)เวียดนาม เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) การส่งออกและการท่องเที่ยว ขณะที่ตลาดหุ้นกำลังอัพเกรดเป็น EM ทำให้ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปซื้อขายในระดับที่สูงขึ้นจากกระแสเงินทุนต่างชาติ โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2567 โต 5.85% YoY และมูลค่าตลาดหุ้นยังถูก โดยซื้อขายที่ระดับ Forward P/E ที่ 10.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 12.7 เท่าและคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเติบโตสูงถึง 32.6%
4)ไทย ซึ่งเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังจากการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐและการท่องเที่ยว โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดว่าเศรษฐกิจปี 2567 จะเติบโต 2.80% YoY ขณะที่มูลค่าตลาดหุ้นถูกโดยมีระดับ Forward P/E ที่ 13.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 15.5 เท่า ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอาจเติบโต 8.6%

2.ธีมหุ้นเติบโตสูง (Growth Stocks)
ในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว หุ้นเติบโตจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ ซึ่งธนาคารทิสโก้แนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ (Megatrends) 2 กลุ่ม คือ
1)หุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เกือบทุกธุรกิจทั่วโลกต้องการใช้งานเพื่อสร้างการเติบโตของรายได้และกำไรครั้งใหม่ (New S Curve) รวมถึงกลุ่มบูรณาการที่จะสนับสนุนการใช้งาน AI ไม่ว่าจะเป็น Cloud ,Cybersecurity ที่จะเติบโตควบคู่ไปด้วย โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าว่าเติบโตกว่า +17.4% YoY
2)หุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด (Renewable energy) อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงไปยังแหล่งพลังงานสะอาด ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากนโยบายของรัฐบาลทั่วโลกที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และได้รับแรงหนุนจาก AI และ Data Center ที่ใช้พลังงานสูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าจะเติบโต +11.1% YoY ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจาก Bloomberg พบว่าหุ้นทั้งสองกลุ่มข้างต้นมีโอกาสสร้างกำไรประมาณ 15- 25%

3.ธีมตราสารหนี้โลก (Global Bonds)
สำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ธนาคารทิสโก้ยังแนะนำให้ลงทุนต่อในตราสารหนี้โลก ซึ่งได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยเพิ่งเริ่มเป็นขาลง และในปีหน้าเป็นเทรนด์ดอกเบี้ยขาลงชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลงจะเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าที่ลงทุนในตราสารหนี้ช่วงนี้ได้รับกำไรจากราคาหน้าตั๋วที่เพิ่มขึ้น โดยหากเข้าลงทุนในช่วงนี้มีโอกาสกำไรในช่วง 12 เดือนข้างหน้าราว 6-8%. -516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย