ธ.ทิสโก้ เปิด 3 ธีมกองทุน ฟันกำไรครึ่งหลังปี 67

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – ธนาคารทิสโก้เปิด 3 ธีมกองทุน เพิ่มโอกาสสร้างกำไรครึ่งปีหลังช่วงดอกเบี้ยขาลงเศรษฐกิจฟื้น เน้นกลุ่ม Emerging Market จีน-เวียดนาม-อินเดีย-ไทย โอกาสสร้างกำไร 20-25% ธีมกลุ่มหุ้นเติบโตสูง AI-พลังงานสะอาด และธีมตราสารหนี้โลก


นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ Head of Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกปรับตัวเป็นขาลง และเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ในสถานการณ์เช่นนี้เป็นผลบวกอย่างมากกับสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง “หุ้น” ดังนั้น ธนาคารทิสโก้จึงแนะนำให้ลูกค้าเลือกลงทุนใน 3 ธีมกองทุนหลัก คือ

  1. ธีมตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market: EM) ซึ่งมีโอกาสสร้างกำไร 20-25% โดยมีประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ จีน เวียดนาม อินเดีย และไทย
  2. ธีมกลุ่มหุ้นเติบโต ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ AI และ กลุ่มพลังงานสะอาด โดยทั้งสองธีมลงทุนเป็นหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ที่มีโอกาสสร้างกำไรอย่างก้าวกระโดดในระยะยาวตามความต้องการของผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม และ 3. ธีมตราสารหนี้โลก ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ

สำหรับรายละเอียด 3 ธีมกองทุนมีดังนี้


  1. ธีมการลงทุนตลาดหุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market : EM)
    ธนาคารทิสโก้มองว่าตลาดหุ้นกลุ่มนี้มีโอกาสสร้างกำไรประมาณ 20-25% สูงกว่าตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market :DM) ที่มีโอกาสสร้างกำไรประมาณ 10% ขณะที่เศรษฐกิจกลุ่มประเทศ EM ตามการประเมินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มองว่าจะเติบโตสูงที่
    4.2% มากกว่า DM ที่เติบโต 1.7% อีกทั้ง นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนกลุ่ม EM ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเติบโตสูงถึง 19.4% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ขยายตัวดีกว่าหุ้นกลุ่ม DM ที่เติบโตอยู่ที่ 5.9% นอกจากนี้ มูลค่าหุ้นยังอยู่ในระดับน่าสนใจโดยมีระดับอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นใน 12 เดือนข้างหน้า (Forward P/E) ที่ 12.2 เท่า น้อยกว่าตลาดหุ้น DM ที่อยู่ในระดับ 18.3 เท่า

โดยมีประเทศในกลุ่ม EM ที่น่าสนใจ 4 ประเทศ คือ
1)อินเดีย ประเทศที่เศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก โดย IMF คาดการณ์ว่าขนาดของเศรษฐกิจอินเดียจะใหญ่แซงหน้าประเทศญี่ปุ่นขึ้นเป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2568 นี้ ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจปี 2567 จะเติบโต 7.8% เมื่อเทียบปีก่อน (YoY) และคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเติบโต 9.7%
2)จีน รัฐบาลจีนเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและออกนโยบาย อาทิ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR), ปรับลดอัตราส่วนสำรองของธนาคาร (RRR), ออกวงเงินกู้ยืมให้บริษัทของภาครัฐเพื่อนำเงินไปซื้ออสังหาฯ โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2567 อยู่ที่ 4.94% YoY มีมูลค่าตลาดหุ้นถูกโดยซื้อขายที่ระดับ Forward P/E ที่ 11.30 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 12.3 เท่าและคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเติบโต 20.7%
3)เวียดนาม เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) การส่งออกและการท่องเที่ยว ขณะที่ตลาดหุ้นกำลังอัพเกรดเป็น EM ทำให้ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปซื้อขายในระดับที่สูงขึ้นจากกระแสเงินทุนต่างชาติ โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2567 โต 5.85% YoY และมูลค่าตลาดหุ้นยังถูก โดยซื้อขายที่ระดับ Forward P/E ที่ 10.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 12.7 เท่าและคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเติบโตสูงถึง 32.6%
4)ไทย ซึ่งเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังจากการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐและการท่องเที่ยว โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) คาดว่าเศรษฐกิจปี 2567 จะเติบโต 2.80% YoY ขณะที่มูลค่าตลาดหุ้นถูกโดยมีระดับ Forward P/E ที่ 13.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 15.5 เท่า ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอาจเติบโต 8.6%

2.ธีมหุ้นเติบโตสูง (Growth Stocks)
ในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว หุ้นเติบโตจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ ซึ่งธนาคารทิสโก้แนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ (Megatrends) 2 กลุ่ม คือ
1)หุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เกือบทุกธุรกิจทั่วโลกต้องการใช้งานเพื่อสร้างการเติบโตของรายได้และกำไรครั้งใหม่ (New S Curve) รวมถึงกลุ่มบูรณาการที่จะสนับสนุนการใช้งาน AI ไม่ว่าจะเป็น Cloud ,Cybersecurity ที่จะเติบโตควบคู่ไปด้วย โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าว่าเติบโตกว่า +17.4% YoY
2)หุ้นกลุ่มพลังงานสะอาด (Renewable energy) อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงไปยังแหล่งพลังงานสะอาด ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากนโยบายของรัฐบาลทั่วโลกที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และได้รับแรงหนุนจาก AI และ Data Center ที่ใช้พลังงานสูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 12 เดือนข้างหน้าจะเติบโต +11.1% YoY ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลจาก Bloomberg พบว่าหุ้นทั้งสองกลุ่มข้างต้นมีโอกาสสร้างกำไรประมาณ 15- 25%

3.ธีมตราสารหนี้โลก (Global Bonds)
สำหรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ธนาคารทิสโก้ยังแนะนำให้ลงทุนต่อในตราสารหนี้โลก ซึ่งได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยเพิ่งเริ่มเป็นขาลง และในปีหน้าเป็นเทรนด์ดอกเบี้ยขาลงชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลงจะเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าที่ลงทุนในตราสารหนี้ช่วงนี้ได้รับกำไรจากราคาหน้าตั๋วที่เพิ่มขึ้น โดยหากเข้าลงทุนในช่วงนี้มีโอกาสกำไรในช่วง 12 เดือนข้างหน้าราว 6-8%. -516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]