หญิงสาวเตือนภัยโดนตบหน้า

นครนายก 31 ส.ค.- สาวบ้านนา จ.นครนายก โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัย หลังถูกชายไม่รู้จัก ลักษณะคล้ายคนเมายา จอดรถจักรยานยนต์ประกบทำร้ายตบหน้าอย่างแรง และพยายามใช้มีดแทง เคราะห์ดีมีคนมาช่วยทัน จึงรอดมาได้


กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “New Y. Alisa” โพสต์ข้อความลงไปยังกลุ่มสาธารณะ ชื่อ “รวมพล พี่น้อง คนบ้านนา นครนายก” โดยระบุข้อความว่า … *เตือนภัย” ผู้ชายในรูป วัยกลางคน เหตุเกิดหน้าร้านพิซซ่าบ้านนาเมื่อเวลาประมาณ 17.20 น.  วันที่ 30 ส.ค.62 พยายามเข้ามาทําร้ายร่างกาย เราจอดรถอยู่ดีๆ ขับรถ ทะเบียน 1 กก58 นครนายก เป็นฟีโน่สีแดงขาว มาจอดข้างรถเรา แล้วตบหน้าเราอย่างแรง โดยที่ไม่รู้จักกัน แล้วก็ขับหนี เราขับตามไปเพื่อจะถาม ให้เค้าจอดรถพอเค้าจอด เค้าก็หยิบมีดใต้เบาะจะมาทําร้ายร่างกายเราอีก เราตะโกนให้คนช่วย เค้าเห็นมีคนออกมา แล้วก็หนีไป!! #ตอนนี้แจ้งความไปเรียบร้อยแล้ว เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เท่าที่รู้จากตํารวจ เค้าอยู่หมู่4 บ้านนา หรือใครเป็นญาติพี่น้องช่วยให้มามอบตัวด้วยนะค่ะ. #ช่วยแชร์กัน ด้วยนะค่ะ วันนี้เราโดนแค่นี้วันหลังเค้าจะไปทําร้ายใครอีกก็ไม่รู้ เตือนภัย เลยค่ะ. “บุคคลอันตราย” #ตอนนี้ต้องพึ่งพี่ตํารวจบ้านนาแล้วค่ะ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ และเดินทางไปที่บ้าน ใน ต.บ้านนา อ.บ้านนา จ.นครนายก พบนางสาวอลิสา สัมพันรัตนชัย อายุ 27 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ก “New Y. Alisa” ชี้ร่องรอยที่โดนทำร้ายบริเวณแก้มขวา ก่อนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่าเมื่อเย็นวานได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตลาดกับแฟน ขณะแฟนลงไปทำธุระที่หน้าร้านทองตนได้นั่งค่อมรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ ระหว่างนั้นมีชายคนหนึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์มาประกบข้างแล้วใช้มือตบที่ใบหน้า ตนจึงหันไปถามว่าเรารู้จักกันหรอ ทำไมถึงมาทำแบบนี้ ขณะที่แฟนก็ถามชายคนที่ลงมือว่า จำผิดคนหรือเปล่า แต่ชายคนก่อเหตุได้ใช้มือชี้หน้ามาที่ตนและบอกว่า มึงและหลายครั้งแล้วและยืนยันว่าถูกคนแล้ว แต่ตนได้บอกไปว่าตนเองไม่ใช่คนแถวนี้ เป็นคนบ้านนา ปกติอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ และพึ่งกลับมาเมื่อวานเอง จากนั้นชายคนก่อเหตุได้ขับรถหนีเข้าไปในซอยข้างธนาคารในตลาดบ้านนา ตนจึงขับรถตามไปถาม เพื่อให้ชายคนดังกล่าวไปสถานีตำรวจด้วยกัน เมื่อชายคนก่อเหตุจอดรถได้เปิดเบาะและหยิบมีดออกมา ตรงจะเข้ามาทำร้ายตน แฟนจึงตะโกนให้คนมาช่วย เคราะห์ดีมีผู้ชายเดินออกมา ชายคนก่อเหตุเห็นจึงหลบหนีไป จากนั้นตนได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.บ้านนา


เบื้องต้นให้ข้อมูลหมายเลขทะเบียนจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุ ตำรวจ สภ.บ้านนา ได้ทำการตรวจสอบเลขทะเบียนรถและปรินท์ใบหน้าเจ้าของรถออกมาให้ตนยืนยัน ซึ่งพบว่าเป็นคนเดียวกับชายที่ก่อเหตุ ตรวจสอบข้อมูลพบชายคนก่อเหตุเป็นคนพื้นที่หมู่ 4 ต.บ้านนา ฝั่งตรงข้ามตลาด โดยวันนี้ตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาสอบสวนว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ เนื่องจากรูปที่ตนถ่ายไว้ ไม่เห็นใบหน้าผู้ก่อเหตุ 

นางสาวอลิสา บอกอีกว่า หลังตำรวจได้ข้อมูลแล้ว ปฏิเสธไม่ให้ตนถ่ายสำเนาหรือบันทึกภาพใบหน้าผู้ก่อเหตุ และไม่ให้เห็นชื่อของผู้ก่อเหตุ และยังบอกอีกว่า เมื่อสายตรวจไปตามคนในภาพแล้วมันเป็นสิทธิ์ของเขาว่าจะมาให้การหรือไม่ ซึ่งตนรู้สึกผิดปกติ ในเมื่อตนถูกทำร้ายขนาดนี้ และหากวันหลังชายคนดังกล่าวไปทำร้ายคนอื่นอีก อาจจะรุนแรงยิ่งกว่านี้ก็ได้ จึงอยากให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีนำคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุทำร้ายกับคนอื่นอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”