สมุทรสาคร 23 ส.ค.-ตำรวจ รวบ 8 นักเรียนยกพวกตีกัน-ปาระเบิดปิงปอง กลางแยกวัดหงอนไก่ อ.กระทุ่มแบน มีผู้โดนลูกหลงสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บ 1 คน-รถยนต์โดนชนเสียหาย 1 คัน
จากเหตุการณ์ที่มีเด็กนักเรียนเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี กำลังศึกษาในระดับ ปวช.จาก 2 สถาบัน ซึ่งเป็นสถานศึกษาในพื้นที่ กับ สถานศึกษาต่างพื้นที่ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันกลางสี่แยกไฟแดงวัดหงอนไก่ ถ.สายใยรัก หมู่ที่ 2 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร แล้วก็ปาระเบิดปิงปองใส่คู่อริ แต่กระเด็นไปถูกรถยนต์กระบะป้ายแดงสีขาว ของนายเสรี สุขประเสริฐ อายุ 63 ปี ที่จอดรอสัญญาณไฟอยู่ จนทำให้กระจกประตูฝั่งคนนั่งข้างถูกสะเก็ดระเบิดปิงปองจนแตกเป็นรูโหว่ขนาดเท่าลูกปิงปอง ส่วนนายเสรีฯ คนขับก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนเพราะถูกสะเก็ดระเบิดปิงปองเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ถูกจักรยานยนต์ชนจนยุบ 1 คัน และมีรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน ที่ฝ่าไฟแดงไปชนกับรถยนต์ล้มคว่ำอยู่กลางถนน กับมีผู้บาดเจ็บเป็นนักเรียนเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ถูกมีดฟันที่หลังอีก 1 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ “Noncizz Nuch” ซึ่งเผยให้เห็นภาพเหตุการณ์ในช่วงจังหวะที่รถของเจ้าของคลิปจอดติดไฟแดงเช่นกัน ขณะนั้นก็มีรถจักรยานยนต์ 2 คันๆละ 2 คน ขับผ่าไฟแดงพุ่งไปชนกับรถยนต์ที่ขับออกมาตามจังหวะสัญญาณไฟเขียว จนรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คันล้มคว่ำลง แล้วผู้ขับขี่กับผู้ซ้อนท้าย ที่สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแจ๊คเก็ตคลุมทับเสื้อสถาบันทั้ง 4 คน ก็รีบลุกขึ้นวิ่งหนี เพราะมีกลุ่มคู่อริ 5 คน ที่สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบและสวมเสื้อแจ็กเก็ตคลุมทับเหมือนกัน วิ่งเข้าหาพร้อมอาวุธในมือที่มีทั้งมีดยาวและไม้ โดยได้ใช้อาวุธในมือฟาดไปที่รถและฟันที่หลังของคู่อริ 1 คน จากนั้น ก็มีการปาระเบิดปิงปองลงบนถนนจนเกิดเสียงดังและกลุ่มควันตามมา ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายหนีไป
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้ติดตามจับกุมตัวเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ที่ร่วมกันก่อเหตุมาได้ทั้งหมดแล้ว และอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเยาวชน ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเป็นการตามมาดักรอเพื่อทำร้ายร่างกายกันนั้น
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งหมด 8 คน เป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ดังนั้นการจะตั้งข้อกล่าวหาใดๆ แก่เยาวชน จะต้องทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบมากเป็นพิเศษ และชัดเจนภายใต้กฎหมายหรือ พ.ร.บ.เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ซึ่งก็จะต้องให้เวลาแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงจะสามารถดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาแก่เยาวชนทั้งหมดได้ ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนฯ ยังอยู่ในขั้นของการเตรียมตั้งข้อกล่าวหาเท่านั้น เพราะต้องทำการสอบปากคำเด็กต่อหน้าทีมสหวิชาชีพ รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย หรือ พ.ร.บ.เด็กและเยาวชน โดยทางตำรวจก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการตั้งข้อกล่าวหาใดบ้าง เพราะอาจจะมีผลต่อรูปคดีได้ เนื่องจากกฎหมายเด็กและเยาวชนเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก อีกทั้งทุกขั้นตอนที่นำเด็กมานั้น ตั้งแต่สอบปากคำ จนถึงแจ้งข้อกล่าวหา ก็จะต้องมีทีมสหวิชาชีพร่วมด้วย.-สำนักข่าวไทย