โจ๋บางปะกง-ชลบุรี ยกพวกตีกัน ตาย 1 เจ็บ 3

21 ต.ค. – กล้องหน้ารถจับภาพนาทีวัยรุ่น 2 กลุ่ม ยกพวกตีกัน เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 3 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 2 คน ก่อนตำรวจจะติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง


ตำรวจ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ภาพจากกล้องหน้ารถขณะเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา กลุ่มวัยรุ่นบางปะกง อายุประมาณ 13-17 ปี นัดกลุ่มวัยรุ่นชลบุรี มาเคลียร์ปัญหาเรื่องที่โพสต์ท้าทายกัน บริเวณริมถนนบางนา-ตราด

โดยกลุ่มวัยรุ่นบางปะกงเดินเข้าไปหากลุ่มวัยรุ่นชลบุรี กลับถูกไล่ฟันแล้วยิงใส่ทันที ทำให้กลุ่มวัยรุ่นบางปะกงถูกยิงเสียชีวิต 1 คน คือนายอภิวัฒน์ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ถูกยิงเข้าศีรษะ 1 นัด และบริเวณลำตัว 3 นัด อาการสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 2 คน


เจ้าของร้านอาหารที่เกิดเหตุให้การว่า ขณะกำลังเก็บร้านได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด ก่อนจะมีวัยรุ่นหลายคนวิ่งเข้ามาหลบภายในร้าน โดยหนึ่งในนั้นคือ ด.ช.นาย (นามสมมติ) ถูกยิงนั่งหายใจรวยริน บนถนนเห็นกลุ่มวัยรุ่น 2 คน ถูกยิงนอนฟุบอยู่บนพื้น ก่อนกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุกว่า 10 คน จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปด้วยความเร็ว

ส่วนกลุ่มเพื่อนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ให้การว่า กลุ่มที่ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นแถววัดศรี พื้นที่พานทอง จ.ชลบุรี ที่มีปัญหาการโพสต์ด่าผู้หญิงและท้าทายกัน ก่อนจะมีการนัดเคลียร์ปัญหา ซึ่งกลุ่มผู้ตายและผู้บาดเจ็บไม่ได้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น ที่มาเพราะน้องๆ ที่มีปัญหาโทรชวนให้มาช่วยเจรจาปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นชลบุรี โดยนัดเจอกันริมถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) หลายจุด ก่อนจะมาจบที่ กม.44 ที่เกิดเหตุ ซึ่งกลุ่มผู้ตายกำลังจะเดินไปหากลุ่มวัยรุ่นชลบุรีเพื่อคุย

แต่จังหวะที่เดินเข้าไปกลุ่มชลบุรีชักอาวุธมีดออกมาไล่ฟันและใช้ปืนยิงใส่กลุ่มพวกตน จนทำให้นายอภิวัฒน์ และนายพงศ์พันธุ์ ล้มฟุบอยู่บนถนน ส่วนที่เหลือวิ่งหนีตาย ขณะกลุ่มวัยรุ่นชลบุรีขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกลับชลบุรี


ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิด โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง สามารถติดตามจับกุมมือปืนได้ รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นอีกประมาณ 10 คน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่

ขณะนายชัยรัตน์ อายุ 19 ปี มือปืนยิงคนเจ็บทั้ง 3 คน ให้การว่า เพื่อนที่มีเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงมาชวนตนให้ไปเป็นเพื่อนเคลียร์ปัญหา แต่พอมาถึงที่เกิดหตุ ฝ่ายตรงข้ามเข้ารุมทำร้ายเพื่อน ตนจึงยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ โดยไม่รู้ว่าจะมีคนเจ็บคนตายหรือไม่ ก่อนจะกลับบ้าน เบื้องต้นถูกดำเนินคดี ข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแต่ความตาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”