รวบโจ๋วัย 18 กับพวก แทงอริดับ ย่านหนองจอก

กทม. 25 ส.ค. – โจ๋วัย 18 ปี ร่วมกับเยาวชนชายวัย 15 ปี อีก 2 คน ก่อเหตุแทงอริดับ และบาดเจ็บสาหัส ในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 ย่านหนองจอก ตำรวจเร่งสอบปากคำ


เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุวัยรุ่น ยกพวกทะเลาะวิวาทใช้มีดแทงกันตายและได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 ถนนเชื่อมสัมพันธ์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ทีมข่าวพบร่องรอยของเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นคราบเลือดหยดเป็นทางยาวบนกลางถนนเข้าไปยังภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าว เล่าว่า เมื่อคืนเวลาเกือบ 21.00 น. ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขี่วนไปวนมาในพื้นที่และมีเสียงเอะอะโวยวาย ตนเองไม่กล้าออกมาดู เพราะกลัวจะมีอันตราย แต่สามีเดินออกมาดูพบมีรถจักรยานยนต์สีแดงจอดบริเวณปากซอย และยังมีชายคนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่กลางถนน โดยมีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งคาดว่าเป็นเพื่อนผู้ตายประมาณ 10 กว่าคน มาห้อมล้อมพร้อมกับขี่รถจักรยานยนต์วนไปวนมาลักษณะไล่หาตัวผู้ก่อเหตุ เท่าที่ทราบ ผู้ตายทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นภายในซอย ก่อนถูกแทงแล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกมาถึงบริเวณปากซอย แต่ก็สิ้นใจตายกลางถนน


สอดคล้องกับชาวบ้านกลางซอย เล่าว่า มีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ตายมากัน 2 คน และกลุ่มผู้ก่อเหตุมากัน 3 คน ขี่จักรยานยนต์ไล่กันและด่าทอกันไปมา มุ่งหน้าออกไปทางปากซอย แต่เมื่อถึงบริเวณหัวโค้ง ปรากฏว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเสียหลักรถล้ม เลยถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายและใช้อาวุธมีดแทงหนึ่งใน 3 คน แต่ทั้งสามขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปหน้าปากซอย และทราบอีกทีว่า คนที่ถูกแทงสิ้นใจตายแล้วหน้าปากซอย ส่วนอีก 2 คน สาหัส

สำหรับคนตายและคนเจ็บเป็นเด็กวัยรุ่นในพื้นที่ ส่วนผู้ก่อเหตุ 2 คน เป็นคนต่างพื้นที่ ด้านพ่อแม่ของนายธีรภัทร อายุ 19 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เท่าที่ตนได้ทราบจากลูกชาย เมื่อคืนนี้ลูกชายไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนบริเวณบึงท้ายซอยกันตามปกติ ก่อนที่จะขี่จักรยานยนต์ออกมาบริเวณปากซอย โดยผู้ตายและลูกชายขี่จักรยานยนต์กันคนละคัน แต่ในระหว่างทางถึงกลางซอย ปรากฏว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ซ้อนสาม 1 คัน ขี่ไล่หลังมา พร้อมตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตัวผู้ตายแล้วผู้บาดเจ็บเลยขี่รถจักรยานยนต์ตามไป เพราะไม่พอใจที่อยู่ดี ๆ ก็โดนตะโกนด่า แต่เมื่อถึงโค้งใกล้ออกปากซอย อยู่ดีๆ ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งจอดดักอยู่และกลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 คน ที่ขี่จักรยานยนต์ซ้อนกันก็จอดดักแล้วเกิดการรุมทำร้ายกันเกิดขึ้น หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่หน้าอกของผู้เสียชีวิต จนทำให้ผู้เสียชีวิตขี่จักรยานยนต์หนีเอาไปปากซอย ก่อนจะไปสิ้นใจกลางถนน

ส่วนลูกชายถูกรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าบวมปูดและมีบาดแผลตามร่างกาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์ประเมินอาการเบื้องต้น พบว่าไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่อยู่ในระหว่างการสังเกตอาการและเอกซเรย์สมอง ตอนนี้ยังพูดจาวกไปวนมาและเบลอไม่ได้สติมากนัก


พ่อแม่ผู้บาดเจ็บยังกล่าวอีกว่าตัว ลูกชายเรียนจบโรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งย่านหนองจอก ประกอบอาชีพรับจ้างติดตั้งเสาไฟเวที ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับใคร ตัวลูกชายมักจะชอบไปเล่นกับกลุ่มเพื่อนที่บึงท้ายซอยเป็นประจำ แต่ไม่มีเรื่องของยาเสพติดอย่างแน่นอน ส่วนตัวผู้ตายนั้น ค่อนข้างจะสนิทกับลูกชายอย่างมาก เท่าที่ทราบเช่าหอพักอยู่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในย่านหนองจอก เพราะเป็นคนต่างจังหวัด พักอาศัยอยู่กับแม่ แต่ก็ไม่ทราบเช่นเดียวกันว่า ตัวผู้ตายมีอริหรือไม่

ทั้งนี้ คาดว่าตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน น่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นนอกพื้นที่ เพราะโดยปกติแล้ว ในพื้นที่นี้มักจะมีปัญหาวัยรุ่นทะเลาะวิวาท ด้วยสาเหตุเกี่ยวกับเรื่องของคนละพื้นที่และอาจจะมีเรื่องของสถาบันการศึกษามาเกี่ยวข้องด้วย ก่อนหน้านี้ตนได้ยินมาว่า มีกลุ่มวัยรุ่นนอกพื้นที่ต้องการจะมาเอาชีวิตวัยรุ่นที่อยู่ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 แต่ตนก็ไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่

พร้อมยอมรับว่า กังวลในเรื่องของทางคดี เพราะเกรงว่าจะไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้หรืออาจจะได้ตัวคนร้ายแล้วแต่ปล่อยตัวไป เพราะพยานหลักฐานไม่แน่นหนาพอ จึงอยากจะฝากช่วยเร่งรัดทางคดีไปทางตำรวจว่า ขอให้เร่งสอบสวนและไล่กล้องวงจรปิดเพื่อให้ได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ขณะที่บรรยากาศที่สนลำผักชี เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ควบคุมตัว เยาวชนชายวัย 15 ปี ผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย เมื่อคืนที่ผ่านมา เข้ามาสอบปากคำที่ สน. ต่อมามีหญิงวัยกลางคน ขี่รถจักรยานยนต์ตามเข้ามาพร้อมนำเอกสารและข้าวของบางอย่าง มาให้พนักงานสอบสวน พร้อมยอมรับกับทีมข่าวว่า เยาวชนชายที่ตำรวจควบคุมมาก่อนหน้านี้เป็น 1 ใน 3 คนที่ร่วมกันลงมือทำร้ายกลุ่มผู้เสียชีวิต ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 หลังจากตำรวจไปหาที่บ้านพร้อมสอบถามว่าเป็นผู้ลงมือหรือไม่ เยาวชนชาย ยอมรับ ว่าเป็นผู้ร่วมลงมือรุมกระทืบผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจริง อย่างไรก็ตาม สำหรับมือแทงนั้นได้เดินทางเข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

ด้านวัยรุ่นอีก 1 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซื้อข้าวและน้ำ มาให้เพื่อน พร้อมกับระบุว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทราบเพียงว่า เพื่อนและน้องๆ ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ซึ่งทุกคนยอมรับสารภาพ วันนี้ในฐานะคนรู้จักก็ทำหน้าที่เพียงมาเยี่ยม ให้กำลังใจและซื้อข้าวปลาอาหารมาให้ได้เท่านั้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสภาพของผู้ต้องหาเป็นอย่างไร เจ้าตัวยอมรับว่า ทุกคนอยู่ในสภาพเครียด แต่เมื่อถามว่า ต้องการจะขอโทษทางฝั่งผู้เสียชีวิตหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ แต่ต้องยอมรับว่า ฝั่งผู้เสียชีวิตสูญเสียมาก ตัวเองก็ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และขอแสดงความเสียใจกับทางกลุ่มผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย

ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำ มือแทงวัย 18 ปี ถึงพฤติการณ์ของคดี ส่วนเยาวชนชายวัย 15 ปีอีก 2 คน เพื่อนร่วมก่อเหตุนั้น ตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำได้ต้องรอเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพร่วมสอบในวันพรุ่งนี้.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]