รวบโจ๋วัย 18 กับพวก แทงอริดับ ย่านหนองจอก

กทม. 25 ส.ค. – โจ๋วัย 18 ปี ร่วมกับเยาวชนชายวัย 15 ปี อีก 2 คน ก่อเหตุแทงอริดับ และบาดเจ็บสาหัส ในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 ย่านหนองจอก ตำรวจเร่งสอบปากคำ


เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุวัยรุ่น ยกพวกทะเลาะวิวาทใช้มีดแทงกันตายและได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 ถนนเชื่อมสัมพันธ์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ทีมข่าวพบร่องรอยของเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นคราบเลือดหยดเป็นทางยาวบนกลางถนนเข้าไปยังภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19

จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าว เล่าว่า เมื่อคืนเวลาเกือบ 21.00 น. ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขี่วนไปวนมาในพื้นที่และมีเสียงเอะอะโวยวาย ตนเองไม่กล้าออกมาดู เพราะกลัวจะมีอันตราย แต่สามีเดินออกมาดูพบมีรถจักรยานยนต์สีแดงจอดบริเวณปากซอย และยังมีชายคนหนึ่งนอนจมกองเลือดอยู่กลางถนน โดยมีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งคาดว่าเป็นเพื่อนผู้ตายประมาณ 10 กว่าคน มาห้อมล้อมพร้อมกับขี่รถจักรยานยนต์วนไปวนมาลักษณะไล่หาตัวผู้ก่อเหตุ เท่าที่ทราบ ผู้ตายทะเลาะวิวาทกับกลุ่มวัยรุ่นภายในซอย ก่อนถูกแทงแล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกมาถึงบริเวณปากซอย แต่ก็สิ้นใจตายกลางถนน


สอดคล้องกับชาวบ้านกลางซอย เล่าว่า มีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ตายมากัน 2 คน และกลุ่มผู้ก่อเหตุมากัน 3 คน ขี่จักรยานยนต์ไล่กันและด่าทอกันไปมา มุ่งหน้าออกไปทางปากซอย แต่เมื่อถึงบริเวณหัวโค้ง ปรากฏว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเสียหลักรถล้ม เลยถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายและใช้อาวุธมีดแทงหนึ่งใน 3 คน แต่ทั้งสามขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปหน้าปากซอย และทราบอีกทีว่า คนที่ถูกแทงสิ้นใจตายแล้วหน้าปากซอย ส่วนอีก 2 คน สาหัส

สำหรับคนตายและคนเจ็บเป็นเด็กวัยรุ่นในพื้นที่ ส่วนผู้ก่อเหตุ 2 คน เป็นคนต่างพื้นที่ ด้านพ่อแม่ของนายธีรภัทร อายุ 19 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เท่าที่ตนได้ทราบจากลูกชาย เมื่อคืนนี้ลูกชายไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนบริเวณบึงท้ายซอยกันตามปกติ ก่อนที่จะขี่จักรยานยนต์ออกมาบริเวณปากซอย โดยผู้ตายและลูกชายขี่จักรยานยนต์กันคนละคัน แต่ในระหว่างทางถึงกลางซอย ปรากฏว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ซ้อนสาม 1 คัน ขี่ไล่หลังมา พร้อมตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตัวผู้ตายแล้วผู้บาดเจ็บเลยขี่รถจักรยานยนต์ตามไป เพราะไม่พอใจที่อยู่ดี ๆ ก็โดนตะโกนด่า แต่เมื่อถึงโค้งใกล้ออกปากซอย อยู่ดีๆ ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งจอดดักอยู่และกลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 คน ที่ขี่จักรยานยนต์ซ้อนกันก็จอดดักแล้วเกิดการรุมทำร้ายกันเกิดขึ้น หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่หน้าอกของผู้เสียชีวิต จนทำให้ผู้เสียชีวิตขี่จักรยานยนต์หนีเอาไปปากซอย ก่อนจะไปสิ้นใจกลางถนน

ส่วนลูกชายถูกรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าบวมปูดและมีบาดแผลตามร่างกาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์ประเมินอาการเบื้องต้น พบว่าไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่อยู่ในระหว่างการสังเกตอาการและเอกซเรย์สมอง ตอนนี้ยังพูดจาวกไปวนมาและเบลอไม่ได้สติมากนัก


พ่อแม่ผู้บาดเจ็บยังกล่าวอีกว่าตัว ลูกชายเรียนจบโรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งย่านหนองจอก ประกอบอาชีพรับจ้างติดตั้งเสาไฟเวที ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับใคร ตัวลูกชายมักจะชอบไปเล่นกับกลุ่มเพื่อนที่บึงท้ายซอยเป็นประจำ แต่ไม่มีเรื่องของยาเสพติดอย่างแน่นอน ส่วนตัวผู้ตายนั้น ค่อนข้างจะสนิทกับลูกชายอย่างมาก เท่าที่ทราบเช่าหอพักอยู่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในย่านหนองจอก เพราะเป็นคนต่างจังหวัด พักอาศัยอยู่กับแม่ แต่ก็ไม่ทราบเช่นเดียวกันว่า ตัวผู้ตายมีอริหรือไม่

ทั้งนี้ คาดว่าตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน น่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นนอกพื้นที่ เพราะโดยปกติแล้ว ในพื้นที่นี้มักจะมีปัญหาวัยรุ่นทะเลาะวิวาท ด้วยสาเหตุเกี่ยวกับเรื่องของคนละพื้นที่และอาจจะมีเรื่องของสถาบันการศึกษามาเกี่ยวข้องด้วย ก่อนหน้านี้ตนได้ยินมาว่า มีกลุ่มวัยรุ่นนอกพื้นที่ต้องการจะมาเอาชีวิตวัยรุ่นที่อยู่ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 แต่ตนก็ไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้หรือไม่

พร้อมยอมรับว่า กังวลในเรื่องของทางคดี เพราะเกรงว่าจะไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้หรืออาจจะได้ตัวคนร้ายแล้วแต่ปล่อยตัวไป เพราะพยานหลักฐานไม่แน่นหนาพอ จึงอยากจะฝากช่วยเร่งรัดทางคดีไปทางตำรวจว่า ขอให้เร่งสอบสวนและไล่กล้องวงจรปิดเพื่อให้ได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ขณะที่บรรยากาศที่สนลำผักชี เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้ควบคุมตัว เยาวชนชายวัย 15 ปี ผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย เมื่อคืนที่ผ่านมา เข้ามาสอบปากคำที่ สน. ต่อมามีหญิงวัยกลางคน ขี่รถจักรยานยนต์ตามเข้ามาพร้อมนำเอกสารและข้าวของบางอย่าง มาให้พนักงานสอบสวน พร้อมยอมรับกับทีมข่าวว่า เยาวชนชายที่ตำรวจควบคุมมาก่อนหน้านี้เป็น 1 ใน 3 คนที่ร่วมกันลงมือทำร้ายกลุ่มผู้เสียชีวิต ภายในซอยเชื่อมสัมพันธ์ 19 หลังจากตำรวจไปหาที่บ้านพร้อมสอบถามว่าเป็นผู้ลงมือหรือไม่ เยาวชนชาย ยอมรับ ว่าเป็นผู้ร่วมลงมือรุมกระทืบผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจริง อย่างไรก็ตาม สำหรับมือแทงนั้นได้เดินทางเข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

ด้านวัยรุ่นอีก 1 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซื้อข้าวและน้ำ มาให้เพื่อน พร้อมกับระบุว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทราบเพียงว่า เพื่อนและน้องๆ ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ซึ่งทุกคนยอมรับสารภาพ วันนี้ในฐานะคนรู้จักก็ทำหน้าที่เพียงมาเยี่ยม ให้กำลังใจและซื้อข้าวปลาอาหารมาให้ได้เท่านั้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสภาพของผู้ต้องหาเป็นอย่างไร เจ้าตัวยอมรับว่า ทุกคนอยู่ในสภาพเครียด แต่เมื่อถามว่า ต้องการจะขอโทษทางฝั่งผู้เสียชีวิตหรือไม่ ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ แต่ต้องยอมรับว่า ฝั่งผู้เสียชีวิตสูญเสียมาก ตัวเองก็ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และขอแสดงความเสียใจกับทางกลุ่มผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย

ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำ มือแทงวัย 18 ปี ถึงพฤติการณ์ของคดี ส่วนเยาวชนชายวัย 15 ปีอีก 2 คน เพื่อนร่วมก่อเหตุนั้น ตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำได้ต้องรอเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพร่วมสอบในวันพรุ่งนี้.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”